พลตำรวจโท ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส) กล่าวว่า จากการพิจารณาและประมวลภาพเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ทั่วประเทศ พบว่ามีความเข้มข้นของการปลุกเร้า รวมถึงความถี่ของการโฟนอินจาก พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั้น มีมากและเข้มข้นรุนแรงขึ้น เนื้อหาส่วนใหญ่ของการโฟนอินและการปลุกระดม ยังคงหยิบยกเรื่องเศรษฐกิจมาเป็นประเด็น เพื่อเป็นการลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นการกระตุ้นเพื่อให้ประชาชนที่ประสบปัญหาในเรื่องต่างๆ มีความหวังและเข้าใจว่าอดีตนายกรัฐมนตรีนั้นจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้
ในส่วนของการดูแลและควบคุมการชุมนุมนั้น ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ระบุว่า การดำเนินงานในขณะนี้มีด้วยกัน 3 ส่วน คือ การส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลการชุมนุม พร้อมสอดส่องดูแลรายละเอียดของเนื้อหาในการชุมนุมและ การโฟนอินแต่ละครั้งนำมาวิเคราะห์ โดยจะเน้นการพูดจาที่เข้าข่ายหมิ่นสถาบัน ซึ่งถือเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของตำรวจสันติบาลโดยตรง หากมีการละเมิดหรือกระทำการที่ผิดต่อกฎหมาย ก็จะต้องนำผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี รวมถึงการเข้าดูแลความเคลื่อนไหวของทุกฝ่าย ซึ่งหากมีเหตุฉุกเฉินก็จะรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและประชาชนรับทราบ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทันท่วงที
"สถานการณ์ในขณะนี้ตนเองมีความเป็นห่วง เพราะฝ่ายอดีตนายกรัฐมนตรี พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้กลับประเทศไทย ซึ่งหากปล่อยให้เหตุการณ์เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จะสร้างความเสียหายให้กับประเทศ ทั้งนี้เห็นว่าทุกฝ่ายน่าจะพยายามลดเงื่อนไขที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง โดยเฉพาะในส่วนของแกนนำซึ่งถือว่าเป็นจุดสำคัญในการปลุกระดม โดยน่าจะคำนึงถึงผลประโยชน์และอนาคตของประเทศชาติเป็นหลัก"ผบช.ส กล่าว