นายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน พร้อมด้วย ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือเรียกร้องถึงนายกรัฐมนตรี โดยได้เรียกร้องให้หารือกับนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทบทวนกำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจและลงมติไม่ไว้วางใจ จากที่กำหนดวันที่ 19-21 มี.ค. โดยมีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับมอบหนังสือ
เอกสารของวิปฝ่ายค้าน ระบุว่า การกระทำของประธานสภาผู้แทนราษฎรที่กำหนดให้วันที่ 19-21 มี.ค.52 เป็นวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ และลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยระเบียบ แบบแผน ข้อบังคับ และประเพณีปฏิบัติที่มีมายาวนาน เนื่องจากในวันที่ 19-20 มี.ค. ประธานสภาฯได้เป็นผู้กำหนดวาระการประชุมที่สำคัญอื่นๆ ไว้ก่อนล่วงหนาแล้ว หากจะเปลี่ยนวาระการประชุมมาเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจอีกต้องถือเป็นมติที่ประชุมสภา
และตามประเพณีปฏิบัติของสภาผู้แทนราษฎร วิปฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลต้องมีการหารือร่วมกัน เพื่อให้กลไกระบบรัฐสภาเดินหน้าอย่างราบรื่น ก่อประโยชน์ต่อประชาชน แต่การกำหนดการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้กระทำขึ้นโดยไม่ได้มีการหารือร่วมกับวิปฝ่ายค้าน ซึ่งจะทำให้การประสานงานในสภาเกิดข้อขัดข้องและไม่ราบรื่นในอนาคตได้
นอกจากนี้ เห็นว่า การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เกิดข้อครหาต่อสังคมว่าได้มาโดยมิชอบด้วยแนวทางประชาธิปไตย และนายกรัฐมนตรี เคยแจ้งต่อสาธารณชนที่จะให้เวลาและโอกาสฝ่ายค้านได้อภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างเต็มที่ ตามกำหนดเวลาที่เหมาะสม คือวันที่ 26-27 มี.ค. 52 แต่กลับพบว่านายกรัฐมนตรี ได้มีการหารืออย่างลับๆ กับ ประนสภาผู้แทนราษฎร และบุคคลภายนอก กำหนดให้อภิปรายไม่ไว้วางใจ วันที่ 19-20 มี.ค.52 เพื่อคาดหวังความได้เปรียบทางการเมืองกับฝ่ายค้าน
ดังนั้น เห็นว่าการกระทำของประธานสภาผู้แทนราษฎรนอกจากขัดต่อระเบียบข้อบังคับและละเมิดประเพณีปฎิบัติแล้ว ยังสร้างความมัวหมองแก่นายกรัฐมนตรี ไม่เพียงแต่สังคมจะคลางแคลงใจต่อการก้าวมาเป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่ชอบด้วยระบอบประชาธิปไตยแล้ว ยังมีจิตใจไม่เป็นประชาธิปไตย หาผลประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ จากการทำหน้าที่ตรวจสอบของฝ่ายค้าน
ด้านนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายค้านมีข้อมูลพร้อมแล้ว แต่อยู่ระหว่างจัดเตรียมเอกสารเพื่ออภิปราย จึงเห็นว่านายกรัฐมนตรีไม่ควรเห็นแก่เรื่องเล็กๆ น้อยเหล่านี้
"ตอนนี้เรามีข้อมูลครบแล้ว แต่ยังต้องดำเนินการในขั้นตอนของการจัดเตรียมเอกสาร ที่จะนำเสนอเพื่อฉาย Power Point โชว์สื่อ ถ้าจะให้ทัน (19-20 มี.ค.) ก็คงไม่ต้องหลับต้องนอน ผมคิดว่า เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของท่านนายกฯ อย่าไปหาเศษหาเลยกับเรื่องเล็กน้อยอย่างนี้เลย" นายสุนัย กล่าว
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การเลื่อนกำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเข้ามาเร็วขึ้นเป็นวันที่ 19-20 มี.ค.นั้น เป็นการตัดสินใจของประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่ยอมรับว่าส่วนตัวแล้วก็ไม่สะดวกในวันดังกล่าว เพราะต้องเลื่อนกำหนดงานต่างๆ ออกไปเช่นกัน ซึ่งไม่ได้เป็นเพราะรัฐบาลต้องการระบุให้อภิปรายวันนั้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากระยะเวลาการอภิปรายไม่เพียงพอ ก็ต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมสภาฯ ถ้าจะขยายวันเพิ่มจากที่มีอยู่ 2 วัน ก็ไม่มีปัญหา และรัฐมนตรีแต่ละคนที่ถูกยื่นอภิปรายก็พร้อมจะชี้แจง ไม่ได้มีความหนักใจแต่อย่างใด ส่วนการจะยกมือสนับสนุนรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายหรือไม่นั้นให้เป็นเอกสิทธิของ ส.ส.เอง