สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจความคิดเห็นของผู้ที่ติดตามรับชม-รับฟังการถ่ายทอดสดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล "อภิสิทธิ์" ทั้ง 2 วัน จากคะแนนเต็ม 10 ประชาชนให้คะแนนการอภิปราย ฝ่ายรัฐบาล 5.53 คะแนน และให้ฝ่ายค้าน 5.24 คะแนน
ส่วนความเห็นเรื่องประชาชนได้อะไรจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ ส่วนใหญ่ 46.80% ได้รับฟังข้อเท็จจริงของทั้ง 2 ฝ่าย,ได้รู้ข้อมูลที่ถูกปิดบัง รองลงมา 27.66% ประชาชนไม่ได้รับผลดี-ผลเสียจากการอภิปรายครั้งนี้ อีก 17.02% ได้เห็นพฤติกรรมและการแสดงออกทางอารมณ์ของนักการเมือง และอีก 8.52% ได้รู้ความคืบหน้าของการทำงานของรัฐบาล
ด้านฝ่ายค้านได้อะไรจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ ส่วนใหญ่ 44.19% เห็นว่าได้นำเสนอข้อมูลและข้อเท็จจริง/ พร้อมมีหลักฐานอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ ส่วน 25.58% เห็นว่าได้ทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล และ 20.93% ได้เสนอความคิดเห็น /ได้ระบายความรู้สึก และ 9.30% ไม่ได้อะไร มีแต่จะเสียเปรียบ เพราะปัจจุบันรัฐบาลได้เปรียบและมีภาษีดีกว่า
ทางด้านฝ่ายรัฐบาลได้อะไรจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ ส่วนใหญ่ 58.82% มองว่าได้ขี้แจงข้อเท็จจริง /แสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสในการทำงาน 17.65% ทำให้รัฐบาลมีความรอบคอบและระมัดระวังในการทำงานมากขึ้น ส่วน 14.71% ได้รับทราบความคิดเห็นและมุมมองที่ฝ่ายค้านมีต่อรัฐบาล และอีก 8.82% ประชาชนยังคงให้ความเชื่อถือและเชื่อมั่นรัฐบาลเหมือนเดิม
ระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านจากศึกซักฟอกการอภิปรายฯ ครั้งนี้ใครได้ใจประชาชน ส่วนใหญ่ 40.21% เห็นว่าเป็นฝ่ายรัฐบาล เพราะชี้แจงได้ดีมีเหตุผล พูดดีสุภาพ มีการเตรียมตัวมาดี รองลงมา 20.09% ฝ่ายค้านได้ใจประชาชน เพราะค้นหาข้อมูลและหลักฐานได้ดี มีการนำเสนอข้อมูลได้ดี ขณะที่ความเห็น 18.48% ได้ใจพอๆ กัน เพราะค้นหาข้อมูลและหลักฐานได้ดี มีการนำเสนอข้อมูลได้ดี และ 15.22% ไม่ได้ใจทั้งสองฝ่าย เพราะไม่ได้ประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ เป็นพฤติกรรมที่ไร้สาระทั้งสองฝ่าย มีแต่ทะเลาะกันเอง
สำหรับจุดเด่นของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ครั้งนี้ คือ การเตรียมความพร้อมของทั้ง 2 ฝ่าย 34.37% รองลงมาเป็นข้อมูลต่าง ๆ มีความชัดเจน หลากหลายและน่าสนใจในบางประเด็น ความเห็น 21.88% มองว่าเป็นการโต้ตอบกันไปมา ทำให้เกิดความสนุกในการรับฟัง อีก 18.75% เห็นว่ารูปแบบการนำเสนอมีสีสัน และมีความหลากหลาย
ส่วนจุดด้อย ของการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ความเห็นส่วนใหญ่มองว่ามีการใช้อารมณ์ที่รุนแรง ก้าวร้าว รองลงมาเป็น การนำเสนอข้อมูลแบบเดิมๆ ไม่มีข้อมูลใหม่ และมีการการลุกขึ้นประท้วงกันบ่อยๆ ประท้วงแบบไร้สาระ เป็นการพูดน้ำท่วมทุ่ง และเน้นข้อมูลที่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวมากเกินไป