นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวภายหลังการปิดประชุมสภา ในวันที่ 20 มีนาคม 2552 ว่า จากการติดตามอภิปรายไม่ไว้วางของฝ่ายค้านตลอด 2 วัน ทำให้ทราบว่า ฝ่ายค้านไม่ได้มีเจตนาจะอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี แต่ความจริงต้องการจะยุบพรรคประชาธิปัตย์ เพราะไม่มีการนำภารกิจ หรือหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีมาพูดแต่อย่างใด มีเพียงการนำพฤติกรรมของกลุ่มคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยจากการที่ตนลุกขึ้นถามร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง ผู้นำฝ่ายค้าน ว่ากล้าจะรับผิดชอบคำพูด โดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นประกันได้หรือไม่ เพราะพรรคประชาธิปัตย์จะรับผิดชอบเช่นกัน หากพิสูจน์ได้ว่ามีเงินเข้าพรรคโดยไม่แสดงบัญชีจริง และจากการกล่าวหานายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศว่าเป็นผู้ต้องหา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับกุมต้องไปมอบตัว แต่จากข้อเท็จจริงจากรายงานของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงวันที่ 19 มีนาคม 2552 ระบุว่ายังไม่มีรายงานว่าคณะพนักงานสืบสวนได้ออกหมายจับกุมนายกษิต ในความผิดที่มีการกล่าวหาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ หากร้อยตำรวจเอกเฉลิมเป็นลูกผู้ชายจริง จะต้องไปยื่นฟ้อง กกต.ตามที่ประกาศไว้กลางสภา เพื่อร้องขอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ และทันทีที่นายเฉลิมยื่นฟ้อง ตนเองจะฟ้องพรรคเพื่อไทยเช่นกัน ในฐานะที่ร้อยตำรวจเอกเฉลิมเป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทย แต่กลับให้ข้อมูลเท็จและใส่ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีโทษถึงยุบพรรคการเมือง