คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล)เห็นชอบให้นำร่างสัญญาเงินกู้ไทย-ญี่ปุ่น วงเงิน 6.3 หมื่นล้านเยน เสนอให้ที่ประชุมรัฐสภาในวันพรุ่งนี้(24 มี.ค.) เพื่อให้ทันปีงบประมาณใหม่ของประเทศญี่ปุ่น และส่งผลจะกระทบเงินกู้โครงการอื่นหากลงนามไม่ทัน
แหล่งข่าวจากวิปรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมฯ ได้หารือสาระสำคัญของร่างหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่น และร่างสัญญาเงินกู้ที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ โดยมีสาระสำคัญคือรัฐบาลญี่ปุ่นตกลงที่จะให้กระทรวงการคลังกู้เงินโดยผ่านองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น(ไจก้า)วงเงิน 63,018 ล้านเยน สำหรับโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)
ที่ประชุมฯ เห็นว่าหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่น และร่างสัญญาเงินกู้สำหรับโครงการดังกล่าวจำเป็นจะต้องมีการลงนามภายในเดือน มี.ค.นี้ ซึ่งเป็นกำหนดสิ้นปีงบประมาณของประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นได้จัดสรรงบประมาณสำหรับโครงการดังกล่าวไว้แล้ว การลงนามในสัญญาเงินกู้หลังเดือน มี.ค.52 อาจจะกระทบวงเงินกู้ที่รัฐบาลญี่ปุ่นให้แก่ประเทศไทยในปีงบประมาณใหม่ของญี่ปุ่น ซึ่งจะเริ่มในเดือน เม.ย.52 นอกจากนั้นหากการลงนามในสัญญาเงินกู้ดังกล่าวล่าช้าการพิจารณาเงินกู้โครงการอื่นๆ จะล่าช้าไปด้วย