นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) เปิดเผยว่า หลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจจบลงแล้วได้มีประชาชนส่งข้อมูลกรณีการกระทำอันขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาให้กับทางพรรค ซึ่งเอกสารดังกล่าวเป็นหนังสือที่ลงนามโดยนายสุเทพ เพื่อขอให้ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) 19 คนไปช่วยราชการ ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 266(1) และ 268
"คนระดับนายสุเทพ กฎหมายแค่นี้จะไม่รู้เชียวหรือ ขอตั้งข้อสังเกตว่า นายสุเทพรู้แต่ลุแก่อำนาจ คิดว่ากระทำได้ ซึ่งทำให้ข้าราชการในกระทรวงต่างๆ กระอักกระอ่วนใจ" นายพร้อมพงศ์ ระบุ
โดยรัฐธรรมนูญ มาตรา 266(1) ระบุว่า ส.ส.และ ส.ว.จะต้องไม่ใช้สถานะหรือตำแหน่งเข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมืองไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ในเรื่องการปฏิบัติราชการในหน้าที่ประจำของข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยงานรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ ตลอดจนกิจการที่รัฐถือหุ้นอยู่ หรือราชการส่วนท้องถิ่น
ส่วนมาตรา 268 ระบุว่า นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีจะกระทำการใดที่บัญญัติไว้ในมาตรา 266 มิได้ เว้นแต่เป็นการกระทำตามอำนาจหน้าที่ในการบริหารราชการตามนโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภาหรือตามที่กฎหมายบัญญัติ
โฆษกพรรค พท.กล่าวว่า จะทำหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษไปยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ในวันพรุ่งนี้(25 มี.ค.)
ส่วนกรณีเงินข้อมูลเงินบริจาค 258 ล้านบาทให้แก่พรรค ปชป.นั้น นายพร้อมพงศ์ คาดว่า สัปดาห์หน้าจะเดินทางไปกรมสรรพากรพร้อมกับฝ่ายกฎหมายของพรรค เพื่อตรวจสอบการได้มาของเงิน 258 ล้านบาทว่ามีการชำระภาษีถูกต้องหรือไม่ และไม่เกินสัปดาห์หน้าร่างคำร้องที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพี่อไทย จัดทำขึ้นด้วยตัวเองจะนำไปยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) โดยมีเดิมพันด้วยการยุบพรรค ปชป.