วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตต้องกลับมาทบทวนและประเมินข้อเสนอให้มีการออกกฎหมายจัดเก็บภาษีเงินโบนัสที่บริษัทที่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล โดยเฉพาะบริษัท อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (AIG) หลังจากที่มีเสียงคัดค้านมาจากทางวุฒิสมาชิกบางส่วน และการที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าว
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงคะแนนโหวต 328 ต่อ 93 เสียง สนับสนุนร่างกฎหมายจัดเก็บภาษีเงินโบนัส 90% กับพนักงานของเอไอจีที่ได้รับเงินช่วยเหลืออย่างน้อย 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากบรรดาผู้เสียภาษี
แม็กซ์ โบคัส ประธานคณะกรรมการการเงินของวุฒิสภา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้มีความเห็นเรื่องดังกล่าวออกมามากมาย จึงเป็นเรื่องยากที่จะตอบหรือสรุปอะไรในช่วงนี้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โบคัสได้เสนอให้มีการจัดเก็บภาษีเงินโบนัสของบริษัทที่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล 70% หลังจากที่สภาผู้แทนฯได้ไฟเขียวร่างกฎหมายจัดเก็บภาษีถึง 90% แต่ต่อมา โบคัสกลับยอมรับว่า วุฒิสภากำลังพิจารณาว่าจะให้การสนับสนุนหรือไม่อีกครั้ง เนื่องจากสมาชิกบางรายมองว่าการจัดเก็บภาษีดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล ดังนั้น จึงมีการประเมินเรื่องนี้อีกครั้ง
บลูมเบิร์กรายงานว่า เมื่อคืน โอบามาได้แสดงความคิดเห็นในทำนองที่ใจเย็นลงก่อนที่จะแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเกี่ยวกับการให้เงินโบนัสดังกล่าว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เขาได้ออกมาตำหนิการจ่ายเงินโบนัสพนักงานบริษัทเอไอจีว่าเป็นการให้เงินโบนัสแก่บุคคลที่มีส่วนทำให้เกิดวิกฤตการเงิน
โอบามากล่าวว่า นายแบงค์และผู้บริหารในตลาดวอลล์สตรีทจำเป็นต้องตระหนักว่าการที่ตัวเองสบายจากความทุกข์ของผู้เสียภาษีนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถอ้างได้ ในขณะเดียวกัน พวกเราไม่สามารถสนับสนุนนักลงทุนหรือองค์กรที่แสวงหาแต่ผลประโยชน์ได้
สเตนีย์ โฮเยอร์ ผู้นำเสียงข้างมากพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนฯ กล่าวว่า สภาคองเกรสอาจจะไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพิ่มเติม หากว่าพนักงานของเอไอจีทยอยคืนเงินโบนัสอย่างต่อเนื่อง
แอนดรู คูโม อัยการประจำนครนิวยอร์ก เปิดเผยว่า ผู้บริหาร 9 จาก 10 คนของเอไอจีเห็นพ้องต้องกันที่จะคืนเงินโบนัสมูลค่ารวมกว่า 80 ล้านดอลลาร์ให้กับทางการสหรัฐ โดยเงินจำนวนดังกล่าวมีมูลค่าเกือบครึ่งหนึ่งของเงิน 165 ล้านดอลลาร์ที่เอไอจีจ่ายเป็นโบนัสให้พนักงานเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา