นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีแนวคิดที่จะบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อจัดการกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ขู่ปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลในวันนี้อย่างแน่นอน และเชื่อว่ารัฐบาลจะรับมือกับสถานการณ์ได้ และจะไม่เป็นฝ่ายที่จะเพิ่มความรุนแรงของการชุมนุม
"เท่าที่ฟังเสียงก็มีการระดมพลอย่างเข้มข้น ทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องอดทนอดกลั้นเป็นพิเศษ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรัฐบาลพร้อมรับมือ เราจะไม่ทำอะไรรุนแรง แต่จะรักษากฎหมายตามที่เราทำได้"นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายกรัฐมตรี กล่าวอีกว่าได้กำชับให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ดูแลสถานการณ์การชุมนุมอย่างใกล้ชิด ป้องกันไม่ให้เกิดการยั่วยุ
ส่วนการที่ 149 ส.ส. ของ 4 พรรคการเมือง ยื่นร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การที่ฝ่ายการเมืองเป็นผู้ริเริ่มเรื่องนี้อาจทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในสังคม ควรจะให้คนกลางเป็นผู้นำเสนอแนวทางสร้างความปรองดองมากกว่า เนื่องจากอาจมีอีกกลุ่มที่ไม่พอใจได้ และยืนยันว่าแนวทางของรัฐบาลในการปฏิรูปการเมือง เป็นแนวทางที่ดีที่สุด
พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่าวาระสำคัญของร่างกฎหมายดังกล่าวกำหนดให้มีการนิรโทษกรรมแก่บุคคลใดๆ ที่กระทำผิดตั้งแต่19 ก.ย.49-5 พ.ค.52 เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณารายละเอียดให้ดี
สำหรับกรณีข้อกล่าวหาเงินบริจาคเข้าพรรคประชาธฺปัตย์ 258 ล้านบาท ที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุว่าได้ข้อมูลจาก พล ต.มนูญกฤต รูปขจร อดีต ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่ทราบว่ามีการให้ข้อมูลกันจริงหรือไม่ เพราะเท่าที่ทราบในช่วงนั้น พล ต.มนูญกฤต ยังม่ได้เป็น ส.ส. หรือสมาชิกพรรค ปชป.อย่างไรก็ตาม เห็นว่าการที่เป็นนักการเมืองเหมือนกัน หากมีปัญหาน่าจะหารือร่วมกันได้