นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับการที่ฝ่ายการเมืองจะเป็นผู้ริเริ่มนำเสนอการปฏิรูปการเมือง หลังจาก ส.ส.4 พรรคการเมือง ได้เสนอร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ เพื่อนิรโทษกรรมผู้ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิวัติ 19 ก.ย.องค์กรอิสระที่จัดตั้งขึ้น นักการเมือง และผู้ที่เคลื่อนไหวทางการเมือง โดยนายกรัฐมนตรีเห็นว่าจะเป็นการจุดกระแสความขัดแย้งให้สังคมให้เกิดขึ้นอีกครั้ง
"ปัญหาของกฎหมายลักษณะนี้เหมือนของปีที่แล้วว่ามีคนในสังคมไม่ยอมรับ ขณะที่บางกลุ่มอาจเห็นว่าควรให้ทำ ถ้าฝ่ายการเมืองเริ่มต้นเองก็เป็นเรื่องยากที่จะไปห้ามไม่ให้เขาเดินขบวนประท้วง มีกี่คนที่อยากให้ย้อนกลับไปเหมือนปีก่อน ทำไมไม่ให้ฝ่ายการเมืองทุ่มเทแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ให้คนกลางเข้ามาทำเรื่องนี้ดีกว่ามั๊ย"นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์เมื่อคืนนี้
นายกรัฐมนตรี ยังมองว่า การเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมหรือการแก้ไขกฎกติกาในยามที่บ้านเมืองมีความขัดแย้งกันมากนั้น ควรให้คนกลาง เช่น นักวิชาการ เป็นผู้เริ่มต้น ซึ่งตนเองก็ได้เสนอให้สถาบันพระปกเกล้าเป็นผู้ดำเนินการศึกษา เนื่องจากคนกลางจะคิดอยู่บนหลักการวิชาการและไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับกฎหมายดังกล่าว และผู้ที่ตัดสินในท้ายสุดก็คือนักการเมืองหรือสภาผู้แทนราษฎร
การที่นักการเมืองจะเป็นผู้เสนอกฎหมายดังกล่าวเองอาจทำให้ถูกสังคมกล่าวหาได้ว่าเป็นการทำเพื่อประโยชน์ของตัวเองหรือพวกพ้อง ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปีก่อนก็เกิดจากความพยายามของนักการเมืองที่จะดำเนินการเช่นนี้จนทำให้ขาดการยอมรับจากสังคม
นอกจากนั้น นายอภิสิทธิ์ ยังตั้งข้อสังเกตร่าง พ.ร.บ.ที่ ส.ส.4 พรรคการเมืองนำเสนอว่า ยังมีประเด็นที่เป็นเรื่องแปลก เพราะมีการขอให้นิรโทษกรรมผู้ที่กระทำความผิดตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.49 จนถึง 5 พ.ค.52 ซึ่งเป็นการขอนิรโทษกรรมล่วงหน้า
"กฎหมายยังไม่ชัดเจนว่าจะนิรโทษกรรมจากการกระทำที่เป็นผลสมัยรัฐประหาร แต่ให้นิรโทษกรรมล่วงหน้าไปถึง 5 พ.ค.ปีนี้ เป็นเรื่องแปลก" นายกรัฐมนตรี กล่าว