นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) ระบุคนในรัฐบาลออกอาการปากแข็งอ้างไม่หวั่นไหวกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โทรศัพท์ข้ามประเทศ(โฟนอิน) หรือวิดีโอลิ้งค์มายังเวทีการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)
"ที่จริงกลัว เพียงแค่เขาเต้นฟุตเวิร์กอยู่นอกประเทศก็ทำประเทศเสียหายแล้ว ตอนนี้การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติทำเอาบรรดารัฐมนตรีถึงกับทำงานไม่ได้ การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 31 มี.ค.นี้ยังไม่รู้เลยว่าจะได้เข้าทำงานทำเนียบหรือไม่" นายชุมพล กล่าว
หัวหน้าพรรค ชทพ.เชื่อว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์จะสามารถอยู่ได้ต่อไปถึงสิ้นปีนี้ หากไม่สะดุดขาตัวเองเสียก่อน ซึ่งหมายถึงไม่ทุจริตและให้ความเป็นธรรมกับพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมกันนี้ยังยืนยันต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้สถานการณ์ทางการเมืองนิ่ง โดยเฉพาะขณะนี้มีความลักลั่นในระบบพรรคการเมือง
"มีที่ไหน พรรคการเมืองถูกยุบไป 3 พรรคแล้วไม่ให้เงินเขาสักบาทเดียว แต่พรรคเล็กๆ แบเงินขอตังก็ได้ แบบนี้ไม่เป็นธรรม ต้องแก้รัฐธรรมนูญ" นายชุมพล กล่าว
วันนี้มีการประชุมใหญ่พรรค ชทพ.เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ 10 คน ประกอบด้วย นายชุมพล ศิลปอาชา เป็นหัวหน้าพรรค, นายกฤต รัตนคามินี และนายถาวร จำปาเงิน เป็นรองหัวหน้าพรรค, นายปรีชา จั่นเพชร เป็นเลขาธิการพรรค, นายไชยวุฒิ เล็กสมบูรณ์ เป็นรองเลขาธิการพรรค, นายอรรฆชัย ตระการศาสตร์ เป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค, นางพวงรัตน์ ชัยบุตร เป็นเหรัญญิกพรรค, นายวัชระ กรรณิการ์ เป็นโฆษกพรรค, นายสุรชัย ทิณเกิด และนางนุจรี ศิริสิงห์ เป็นกรรมการบริหารพรรค
พรรค ชทพ.ได้ประกาศจุดยืน 7 ข้อ ได้แก่ 1.จะเทิดทูนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตย 2.เชื่อว่าความสามัคคีอันหนึ่งอันเดียวกันเป็นหัวใจสำคัญในการแก้วิกฤตของชาติขณะนี้ 3.การแก้วิกฤตประเทศต้องแก้วิกฤตทางการเมืองก่อนวิกฤตอื่น 4.การแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตราเป็นทางออกที่ดีและตรงจุด
5.สังคมต้องมีความเป็นธรรมและให้ความเป็นธรรมกับคนที่ไม่ได้ทำความผิด 6.เชื่อมั่นและเคารพในกระบวนยุติธรรมในสถาบันตุลาการ 7.ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขปัญหาทางการเมืองที่ให้สถาบันพระปกเกล้าทำเรื่องปฏิรูปการเมือง ซึ่งตรงกับที่หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่าแก้ไขไม่ตรงจุดแต่เสมือนหนึ่งว่าจงใจยื้อเวลาไว้เท่านั้น