นายกฯ ชี้"ทักษิณ"ปลุกม็อบเพื่อตัวเอง แนะกลับมาสู้คดีจะแก้ปัญหาได้เอง

ข่าวการเมือง Sunday March 29, 2009 14:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกรัฐมนตรี ระบุการออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างต่อเนื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในขณะนี้ต้องการปลุกระดมให้คนออกมาร่วมชุมนุมเพื่อกดดันรัฐบาล ซึ่งมุ่งหวังให้เกิดประโยชน์ส่วนตัวมากกว่า เพราะข้อเรียกร้องที่ผ่านมายังมีความสับสน

"ถ้ามีความบริสุทธิ์ใจที่จะให้ระบบเดินหน้าและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ก็เอามาคุยกัน เปิดเวทีให้กว้าง รัฐบาลพร้อมอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เรียกร้องกันมาตอนนี้เป็นความพยายามที่จะปลุกระดมมากกว่า" นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า ประชาชนส่วนใหญ่คงเห็นตรงกันว่าบ้านเมืองต้องการความสงบ ดังนั้นทุกฝ่ายต้องช่วยกันเสนอข้อมูลข่าวสารให้ครบถ้วนและรอบด้าน ไม่ใช่ฟังความข้างเดียว โดยผู้เกี่ยวข้องได้ติดตามในขอบเขตของกฎหมาย ซึ่งอยากเรียกร้องให้สังคมช่วยกันดูแล อย่าเพิกเฉยต่อสิ่งที่ไม่เหมาะสม ต้องออกมาตำหนิติติงกันบ้างเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ครบถ้วนและรอบด้านมากขึ้น

การที่อดีตนายกรัฐมนตรีออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองเป็นความพยายามในเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัว แต่รัฐบาลคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน และต้องรักษาความถูกต้องในบ้านเมือง ที่จริงแล้วหากอดีตนายกรัฐมนตรีกลับเข้าประเทศแล้วยอมรับกระบวนการยุติธรรม ทุกอย่างจะแก้ปัญหาได้เอง ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลพยายามติดตามตัวอดีตนายกรัฐมนตรีกลับมา แต่ต้องเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย

นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงกรณีที่อดีตนายกรัฐมนตรีตำหนิแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เน้นเรื่องการกู้เงินว่า ไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่การกู้ยืมเงินในช่วงที่ผ่านมาของรัฐบาลที่ทำให้ขาดดุลงบประมาณ เป็นเรื่องที่รัฐบาลชุดก่อนๆ ก็ทำเป็นเรื่องปกติ อย่าพยายามบิดเบือนว่าสิ่งนี้ไม่ควรกระทำ ซึ่งหากใครเรียนเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นจะทราบว่าจังหวะเวลานี้เหมาะสมที่สุดที่จะทำงบประมาณแบบขาดดุล ไม่เช่นนั้นจะไม่มีอะไรมาปกป้องคุ้มครองคนที่ตกงาน คนที่มีรายได้น้อย และเกษตรกรในยามเศรษฐกิจไม่ดีโดยมีปัจจัยจากเรื่องภายนอกและการที่รัฐบาลได้รับผลกระทบจากการจัดเก็บรายได้ ส่วนการกู้ยืมเงินมาเพื่อการลงทุนนั้นเป็นการเตรียมการสำหรับอนาคต ซึ่งจะไม่กระทบต่อวินัยการเงินการคลัง

"ข้อเสนอของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้พิเศษอะไรที่บอกว่าไม่ให้กู้เงิน แต่ให้ไปแคะกระปุกคือการนำเงินสำรองออกมาใช้จะมีปัญหาในอีกทางหนึ่ง...ไม่เชื่อว่าใครมาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วจะไม่ต้องกู้เงินตอนนี้ คนส่วนใหญ่เข้าใจเศรษฐศาสตร์ดี" นายอภิสิทธิ์ กฃ่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค.ไปจนถึงวันที่จะเดินทางไปร่วมประชุม G 20 ที่ประเทศอังกฤษ ในวันที่ 2 เม.ย.ยังไม่มีกำหนดที่จะเดินทางเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล ส่วนช่วงที่ไม่อยู่จะมอบหมายให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการแทน แต่ตนเองจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ยังมีสมาธิในการทำงานดี โดยให้ความสนใจกับการทำงานแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองเป็นหลัก และมั่นใจว่ารัฐบาลยังสามารถทำงานได้ พร้อมทั้งเรียกร้องกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ไม่ควรพาดพิงถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เพราะไม่มีเหตุผลและความตริงตามที่มีการกล่าวหา

"การชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองขอให้เป็นเรื่องของนักการเมืองด้วยกัน ไม่ควรที่จะไปพาดพิงถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ หรือองคมนตรีคนอื่นๆ เพราะความจริงแล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะดึงท่านเข้ามาเกี่ยวข้อง มีการกล่าวหาในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

อย่างกรณีที่กล่าวหาว่าประธานองคมนตรีเกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เนื่องจากตั้งแต่ พล.อ.เปรม วางมือทางการเมืองก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการทางการเมืองของพรรค ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใด ตนเองคิดว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้องที่มีการกล่าวพาดพิง เพราะรู้กันอยู่แล้วว่าตำแหน่งที่ พล.อ.เปรม ดำรงอยู่ขณะนี้เป็นเรื่องยากที่จะออกมาชี้แจงหรือตอบโต้

"ไม่ควรฉวยโอกาสที่ประชาชนส่วนหนึ่งอาจไม่ทราบประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เพราะเมื่อครั้งที่ พล.อ.เปรม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นช่วงเวลาที่นานมาแล้ว และเป็นผู้ที่ช่วยทำให้บ้านเมืองพ้นจากวิกฤตที่เกิดขึ้นในตอนนั้นได้...การไปกล่าวหาโจมตีท่านจึงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม" นายอภิสิทธิ์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ