สำนักข่าวท้องถิ่นของมาเลเซียรายงานในวันนี้ว่า นายอาซิเลาะห์ ฮาดรี และนายซีรัล อาซาร์ อูมาร์ อดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค แห่งมาเลเซีย ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดในคดีฆาตรกรรมล่ามหญิงคนหนึ่งในปีพ.ศ.2549 และถูกตัดสินประหารชีวิต
ผู้พิพากษาโมฮัด ซากี มาอิด ยาซิน แห่งศาลฎีกาชาห์ อาลาม ตัดสินให้นายฮาดรีและนายอูมาร์มีความผิดในข้อหาฆาตรกรรรมล่ามหญิงชาวมองโกเลียวัย 28 ปีและตัดสินให้ประหารชีวิต หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบชิ้นส่วนกระดูกของผู้เสียชีวิตในป่านอกกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยญาติระบุว่าเธอถูกยิงและถูกนำร่างไปทำลายทิ้งด้วยการใช้ระเบิดพลาสติคแยกร่างออกเป็นเสี่ยงๆ
การตัดสินคดีครั้งนี้อาจจุดชนวนให้พรรคฝ่ายค้านของมาเลเซียกล่าวหาว่า นายกรัฐมนตรีนาจิบมีส่วนพัวพันกับคดีฆาตรกรรม แม้นายนาจิบได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวไปหลายครั้งแล้วก็ตาม โดยเขายืนยันว่าไม่เคยพบผู้เสียชีวิต คือน.ส.อัลตันตูยา ซาอารีบู คนรักของนายอับดุล ราซัค บาจินดา อดีตที่ปรึกษาของเขาที่ได้รับการตัดสินว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตรกรรมครั้งนี้
รายงานระบุว่า จำเลยทั้งสองมีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องการคุ้มครองนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ซึ่งในช่วงเวลาที่เกิดการฆาตรกรรมนั้น นายนาจิบยังดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย
น.ส.ซาอารีบู เกิดและเติบโตที่เมืองเซนต์ ปีเตอร์เบิร์ก และเดินทางไปศึกษาต่อที่กรุงปักกิ่ง มีความสามารถพิเศษในการพูดภาษารัสเซีย อังกฤษ จีน และญี่ปุ่น ซึ่งการเสียชีวิตของน.ส.ซาอารีบูทำให้ครอบครัวของเธอตัดสินใจฟ้องเรียกค่าชดเชยจากรัฐบาลมาเลเซียเป็นเงินสูงถึง 100 ล้านริงกิต หรือ 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ทั้งสองได้ยิงเธอและทำลายหลักฐานด้วยการระเบิดร่างของเธอออกเป็นเสี่ยงๆ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน