แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)เตรียมเคลื่อนไหวไปชุมนุมปิดล้อมสถานที่จัดการประชุมสุดยอดอาเซียนและประเทศคู่เจรจา(อาเซียน+3 และอาเซียน+6) ที่พัทยาวันพรุ่งนี้(10 เม.ย.) เพื่อขัดขวางการทำหน้าที่ของรัฐบาล วางยุทธศาสตร์ดาวกระจายทั่วเมือง ตอบโต้ทุกรูปแบบหากเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรง
"ต้องขออภัยมิตรประเทศ เพราะไม่สามารถยอมรับรัฐบาลที่มีที่มาไม่ชอบธรรมได้ คิดว่ามิตรประเทศและประเทศคู่เจรจาคงจะไม่ประชุมท่ามกลางเลือดเนื้อและชีวิตของประชาชน"นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.กล่าว
นายจตุพร กล่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงกำลังเข้าสู่ช่วงที่ยากลำบากที่สุด ซึ่งไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องมาถึงจุดนี้ที่จะต้องใช้มาตรการรุนแรงจนส่งผลกระทบต่อประชาชน เพราะที่ผ่านมายึดแนวทางสันติวิธีมาโดยตลอด แต่ก็เห็นว่าไม่ว่ากลุ่ม นปช.จะระดมคนมากกว่านี้นับ 10 เท่าก็ไม่สามารถทำอะไรรัฐบาลได้ จึงต้องมีมาตรการอื่น ๆ ออกมา จึงต้องขออภัยประชาชนที่ได้รับผลกระทบ แต่นปช.เชื่อว่าวิธีดังกล่าวจะทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุดแล้วเมื่อเทียกับการบุกรุกทำลายสถานที่ราราชการหรือปิดล้อมสนามบิน
สำหรับแนวทางการเคลื่อนไหวชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงจะยึดหน้าทำเนียบรัฐบาลเป็นพื้นที่หลักเหมือนกองบัญชาการ และจะดาวกระจายไปยังพื้นที่อ่อนไหว อย่างอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งจะทำให้การจราจรทั้งกรุงเทพฯ เป็นอัมพาต และหากยืดเยื้อไปกว่านี้ก็จะส่งผลกระทบไปทั่วประเทศ
นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าการชุมนุมจะยุติลงเมื่อใด เพราะต่างฝ่ายก็ต่างทำหน้าที่ แต่หากมีการใช้กำลังหรือความรุนแรงกับผู้ชุมนุม ก็จะมีการตอบโต้ทุกรูปแบบ สาเหตุที่คนเสื้อแดงใช้มาตรการที่รุนแรงขึ้นเพราะไม่ต้องการให้ปัญหายืดเยื้อไปนานและประเทศจะเสียหายไปมากกว่านี้
"เมื่อรัฐบาลไม่สนใจใยดีที่มีประชาชนออกมามากขนาดนี้ จึงได้ตัดสินใจเช่นกัน แต่เราไม่ได้ทำรุนแรงอย่างกลุ่มพันธมิตรฯ"นายจตุพร กล่าว
ขณะที่มองว่าการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เข้ามาสลายการชุมนุมคงเป็นกระสุนด้านและไม่มีผล เพราะที่ผ่านมาในรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็มีการประกาศบังคับใช้มาแล้วแต่ผู้ปฏิบัติไม่ดำเนินการ ซึ่งคงจะต้องลองดูว่าหากมีการประกาศจริง ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)จะสามารถทำกับคนเสื้อแดงหรือไม่