สื่อต่างประเทศ รวมถึงสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น บีบีซี บลูมเบิร์ก เอพี และซินหัว รายงานข่าวการชุมนุมประท้วงของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ปิดกั้นถนนเส้นสำคัญหลายสายที่เป็นเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของกรุงเทพฯ รวมถึงถนนบริเวณอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อีกทั้งเคลื่อนพลชุมนุมหน้าสถานที่สำคัญทางราชการ เช่น กระทรวงการต่างประเทศ และศาลรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้การจราจรบนถนนหลายสายของกรุงเทพฯ รวมถึงทางด่วนเป็นอัมพาต และภาวะการจราจรติดขัดได้ขยายวงกว้างต่อเนื่องไปยังถนนชั้นในของกรุงเทพฯอีกหลายสาย
ซีเอ็นเอ็นระบุว่า การชุมนุมประท้วงของกลุ่มเสื้อแดง หรือ กลุ่มนปช.มีเป้าหมายที่จะขับไล่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และจนถึงขณะนี้รัฐบาลของหลายประเทศได้ออกประกาศเตือนผู้ที่จะเดินทางมายังประเทศไทย ให้ศึกษาข้อมูลก่อนเดินทาง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจจะได้รับจากการชุมนุมทางการเมือง ซึ่งประเทศเหล่านี้รวมถึง ญี่ปุ่น อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย และไอร์แลนด์
การประกาศเตือนดังกล่าวอาจทำให้ไทยต้องสูญเสียรายได้จากนักท่องเที่ยวประมาณ 14 ล้านบาท ขณะที่ยอดจองห้องพักในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พบว่าแหล่งท่องเที่ยวสำคัญบางแห่ง ถูกแจ้งยกเลิกการจองแล้ว เช่นที่พัทยา จ.ชลบุรี เหลือเพียงร้อยละ 51 จากที่จองไว้ร้อยละ 70 ส่วนที่ชะอำ เหลือร้อยละ 60-70 จากที่จองไว้ร้อยละ 80-90 และหากเหตุการณ์การชุมนุมมีความรุนแรง ก็จะส่งผลกระทบกับการจัดประชุมสัมมนาในช่วงปลายปีนี้ด้วย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ประกาศให้วันศุกร์ที่ 10 เม.ย.เป็นวันหยุดราชการเพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้ประชาชนได้รับความไม่สะดวก เนื่องจากรัฐบาลจะเริ่มบังคับใช้กฎหมายเข้าจัดการและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกฎหมายในกลุ่มนปช. พร้อมกับยืนยันว่าจะไม่ลาออกตามข้อเรียกร้องอย่างแน่นอน