คิม จอง อิล ผู้นำโสมแดงวัย 67 ปียังคงเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลสูงสุดของเกาหลีเหนือ หลังสำนักข่าวกลางของเกาหลีเหนือเผยแพร่ภาพการปรากฏตัวครั้งสำคัญต่อสาธารณชนในการประชุมสภาเมื่อวานนี้ นับตั้งแต่มีข่าวว่าเขาล้มป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองอุดตันเมื่อปีที่แล้ว
โดยวานนี้ รัฐสภาเกาหลีเหนือมีมติเลือกนายคิม จอง อิล ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการกลาโหมแห่งชาติ (NDC) อีกสมัยหนึ่ง ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวมีอำนาจสูงสุดในการกำกับดูแลกองทัพที่มีทหารมากถึง 1 ล้านนาย
ชอย จอง คัง ศาสตราจารย์ด้านการเมืองจากมหาวิทยาลัย Yonsei University ในกรุงโซลกล่าวว่า "การปรากฏตัวของผู้นำโสมแดงครั้งนี้ตอกย้ำให้เห็นว่าเขายังเป็นผู้ที่ทรงอิทธิพลอย่างมากในดินแดนเกาหลีเหนือ โดยดูได้จากความเคลื่อนไหวในการปล่อยขีปนาวุธที่เขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สื่อเกาหลีเหนือได้รายงานข่าวยกย่องนายคิมที่เป็นบุคคลสำคัญผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการยิงจรวดนำดาวเทียมสื่อสาร Kwangmyongsong-2 เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ญี่ปุ่นและสหรัฐกล่าวว่า ดาวเทียมดังกล่าวมีลักษะเหมือนการทดลองยิงขีปนาวุธสำหรับติดหัวรบนิวเคลียร์ แต่จรวดดังกล่าวไม่ได้เข้าสู่วิถีวงโคจร
ทั้งนี้ เกาหลีเหนือได้ทดลองยิงขีปนาวุธพิสัยไกลในลักษณะเดียวกันนี้เมื่อเดือนก.ค.2549 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้สหประชาชาติออกมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือ ขณะที่การทำข้อตกลงยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ต้องหยุดชะงักลงเนื่องจากเกาหลีเหนือปฏิเสธที่จะให้คณะผู้ตรวจสอบเข้าถึงเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่เมืองยองเบียน ซึ่งเป็นแหล่งเสริมสมรรถนะแร่พลูโตเนียมที่จะพัฒนาขึ้นเป็นอาวุธมีอานุภาพทำลายล้างสูง