นายกฯประกาศกำหนดอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีตามกฎหมาย

ข่าวการเมือง Monday April 13, 2009 15:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศเรื่อง การกำหนดอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีตามกฎหมายเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี

ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี อำเภอเมืองสมุทรปราการ อำเภอบางพลี อำเภอลำลูกกา อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม และอำเภอวังน้อย อำเภอบางปะอิน อำเภอบางไทร อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2552 แล้ว นั้น

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 วรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้บรรดาอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงตามกฎหมายโอนมาเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับ การอนุญาต อนุมัติ สั่งการ บังคับบัญชา หรือช่วยในการป้องกัน แก้ไข ปราบปราม ระงับยับยั้งในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือฟื้นฟู หรือช่วยเหลือประชาชนในเขตท้องที่ที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ดังต่อไปนี้

1. พระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2503

2. พระราชบัญญัติการทะเบียคนต่างด้าว พ.ศ. 2493

3. พระราชบัญญัติสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547

4. พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522

5. พระราชบัญญัติควบคุมโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2495

6. พระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530

7. พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550

8. พระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493

9. พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522

10. พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522

11. พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535

12. พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490

13. พระราชบัญญัติการเนรเทศ พ.ศ. 2499

14. ประมวลกฎหมายเพ่งและพาณิชย์เฉพาะบทบัญญัติที่เกี่ยวกับมูลนิธิและสมาคม

15. ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เฉพาะบทบัญญัติที่เกี่ยวกับการใช้อำนาจสืบสวนและสอบสวน และการใช้อำนาจของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ

16. ประมวลกฎหมายอาญา

ทั้งนี้ ให้รวมถึงกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายดังกล่าวข้างต้นด้วย

ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชกำหนดนี้ เป็นเจ้าพนักงานเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ด้รับโอนมาเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี โดยให้ถือเสมือนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายนั้น แต่ทั้งนี้การโอนอำนาจตามกฎหมายดังกล่าวมิได้เป็นการทำให้การบังคับใช้กฎหมายของผู้รับผิดชอบเดิมหมดไปซึ่งจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ