ศาลอาญาได้ออกหมายจับแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง รวมทั้งหมด 14 คน รวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นายจักรภพ เพ็ญแข นายวีระ มุกสิกพงศ์ นพ.เหวง โตจิราการ นายจตุพร พรหมพันธ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายสุพร อัตถาวงศ์ เป็นต้น
ทางด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวผ่านรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ว่า ขณะนี้ ยังคงมีการชุมนุมของประชาชนจำนวนหนึ่ง ที่มีประมาณ 500 คน และไม่ได้สวมเสื้อสีแดง ที่ท้องสนามหลวง โดยสิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ มีความพยายามปลุกกระแสว่าทหารทำร้ายประชาชน จึงต้องเร่งทำความเข้าใจกับประชาชน
โดยยืนยันว่า ทหารใช้กระสุนปืนจริง ในการยืงปืนขึ้นฟ้า เพื่อขู่กลุ่มผู้ชุมนุม แต่หากจำเป็นต้องป้องกันตัว เนื่องจากถูกกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามทำร้าย จะใช้กระสุนซ้อมรบ ซึ่งไม่มีหัวกระสุน เพื่อข่มขวัญเท่านั้น และจากการสอบถามแพทย์ผู้รักษาผู้บาดเจ็บ พบว่า ไม่ได้ถูกกระสุนเอ็ม 16 ซึ่งเป็นกระสุนชนิดเดียวกับที่ทหารใช้
พ.อ.สรรเสริญ ยังกล่าวต่อว่า ทหาร 1 กองร้อย ที่ตรึงกำลังบริเวณท้องสนามหลวง จะเร่งทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุม ในเรื่องการห้ามชุมนุม ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และเชื่อว่า ทหารจะสามารถผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมได้ หลังจากเคลียร์พื้นที่ที่บริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ และเทเวศร์แล้ว อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า การชุมนุมครั้งนี้ ไม่มีการปรากฏตัวแกนนำที่ชัดเจน แต่เชื่อว่า จะต้องมีอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ โฆษกกองทัพบก ยอมรับว่า มีข่าวการเตรียมก่อเหตุ หรือการก่อวินาศกรรม ในคืนนี้จริง ดังนั้น ทหารจะปรับกำลังพลใน 50 เขตของกรุงเทพฯ และจะประสานตำรวจ เพื่อตั้งจุดตรวจ และจัดตั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็ว รวมทั้งยังขอความร่วมมือจากประชาชน ในการแจ้งเบาะแสต่างๆ เพื่อการเข้าระงับ