นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยว่า รัฐบาลจะเสนอให้ประธานรัฐสภาเปิดประชุมร่วม 2 สภาในวันที่ 22-23 เม.ย.เพื่อให้มีการอภิปรายทั่วไปรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมืองที่เกิดความวุ่นวายขึ้น
"ได้คุยกับท่านประธานชัย(ชิดชอบ) ไว้แล้ว ว่าพรุ่งนี้หลังเสร็จประชุม ครม.จะทำหนังสือถึงท่านประธานชัย ให้นัดประชุมร่วม 2 สภา เพื่อให้รัฐบาลได้รับฟังความเห็นจากสมาชิกทั้ง 2 สภาในเรื่องราวที่เกิดขึ้น คงเป็นพุธ-พฤหัสหน้า" นายกรัฐมนตรี ระบุ
วันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงสถานการณ์ทางการเมืองให้แก่เอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ ประจำประเทศไทย ที่ทำเนียบรัฐบาล เกี่ยวกับการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เนื่องจากเกิดเหตุวุ่นวายจากการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)ในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ตลอดจนแนวทางการฟื้นฟูประเทศ และมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดสถานการณ์ความวุ่นวายในประเทศอีก
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันว่า สถานการณ์ส่วนใหญ่กำลังเข้าสู่สภาพปกติ โดยการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จะเป็นเพียงมาตรการชั่วคราว หลังจากประกาศยกเลิก พ.ร.ก.แล้วประชาชนจะใช้สิทธิตามรัฐธรมนูญในการชุมนุมทางการเมืองได้ แต่ต้องไม่ใช่การยั่วยุให้ทำสิ่งผิดกฎหมายเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในประเทศ และรัฐบาลก็พร้อมจะพูดคุยเพื่อสร้างความปรองดองความสมานฉันท์ภายในชาติ
"การชุมนุมยังทำได้(หลังยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) แต่ต้องเป็นการแสดงความคิดเห็นด้วยการชุมนุมอย่างสงบ ปราศจากอาวุธ แต่จะชุมนุมเพื่อมายุยงให้คนกระทำผิดกฎหมายไม่ได้...รัฐบาลเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ที่มาชุมนุมไม่ได้มีเจตนาที่จะสร้างความวุ่นวาย เพราะฉะนั้นเราจะขีดวงเฉพาะคนที่จงใจสร้างความวุ่นวาย"นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้แจ้งเรื่องไปยังตำรวจสากลแล้ว พร้อมกับมอบนโยบายให้กระทรวงการต่างประเทศทำความเข้าใจกับบรรดาทูตของประเทศต่างๆ ให้ชัดเจนว่ารัฐบาลไม่ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปใช้ประเทศใดในการเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งเชื่อว่าบรรดามิตรประเทศจะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทย
"ขณะนี้กระทรวงต่างประเทศได้พูดคุยกับนานาประเทศ และทูตไปชัดเจนแล้วว่า เราเป็นห่วงเวลาที่คุณทักษิณไปเคลื่อนไหวทางการเมือง ก็ขอให้มิตรประเทศช่วยกันดูแล ผมเชื่อว่าทุกมิตรประเทศจะปฏิบัติในหลักการนี้ คงไม่มีใครยอมให้ไปใช้ประเทศของตัวเองก่อปัญหาความมั่นคงของประเทศอื่น"นายกรัฐมนตรี ระบุ
นายอภิสิทธิ์ ยอมรับว่าจากเหตุการณ์ที่กลุ่มผู้ชุมนุม นปช.ได้เข้าไปบุกยึดโรงแรมรอยัลคลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา จนส่งผลให้รัฐบาลไทยต้องประกาศยกเลิกการจัดประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศกับประเทศคู่เจรจาเมื่อสัปดาห์ก่อนนั้น มาตรการการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมของทางเจ้าหน้าที่มีความเข้มงวดน้อยเกินไป และอาจจะต้องทบทวนมาตรการการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมในระหว่างที่มีการประชุมในเวทีระดับโลกให้มีความเข้มงวดยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกำลังหารือกับนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน ถึงการจัดประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาขึ้นอีกครั้งโดยที่ไทยยังคงเป็นเจ้าภาพ คาดว่าจะมีข้อสรุปใน 1-2 วันนี้ โดยเชื่อว่าทุกประเทศต่างจับตาในเรื่องนี้อยู่ ซึ่งรัฐบาลไทยคงไม่สามารถปล่อยให้การจัดประชุมต้องล้มเหลวลง แต่จะนำข้อบกพร่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาทบทวนและนำไปปรับปรุงในการจัดประชุมครั้งหน้า