เมื่อเวลาประมาณ 05.45 น.เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มใส่รถยนต์ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณหน้าวัดเอี่ยมวรนุช ใกล้สี่แยกบางขุนพรหม ขณะกำลังเดินทางไปจัดรายการทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีที่ถนนพระอาทิตย์
คนร้ายใช้รถกระบะขับตามประกบก่อนที่มือปืนซึ่งนั่งอยู่บริเวณกระบะด้านท้ายจะใช้อาวุธสงครามระดมยิงเข้าใส่ทั่วทั้งคัน ส่งผลให้คนขับถูกกระสุนปืนได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนนายสนธิและการ์ดได้รับบาดเจ็บ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ดสีดำ ซึ่งเป็นรถยนต์ของนายสนธิถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามพรุนทั้งคัน กระจกฝั่งด้านคนนั่งและกระจกด้านหลังแตกละเอียด ล้อรถยนต์ทั้ง 4 ล้อถูกยิงจนแบน และพบปลอกกระสุนอาวุธปืนสงครามชนิดอาก้า และเอ็ม 16 ตกอยู่จำนวนกว่า 100 ปลอก และใกล้กันยังพบรถประจำทาง ขสมก.สีครีมแดง สาย 53 ถูกกระสุนลูกหลงจอดอยู่
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้ส่งเจ้าหน้าที่ให้ไปติดตามดูแลความปลอดภัยที่โรงพยาบาล
ขณะที่ นพ.ชัยวัน เจริญโชคทวี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ได้แถลงถึงอาการของนายสนธิว่า ผลจากการเอ็กซเรย์พบวัตถุที่เป็นโลหะทะลุเข้าไปฝังบริเวณกะโหลกศีรษะด้านขวา และกะโหลกมีอาการแตกร้าว ซึ่งแพทย์ได้นำตัวนายสนธิเข้าห้องผ่าตัดเมื่อเวลา 08.00 น.ที่ผ่านมา ซึ่งต้องใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 3 ชั่วโมง และแพทย์ไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยมผู้ป่วย
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธุ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และผู้ดำเนินรายการสภาท่าพระอาทิตย์ สถานีโทรทัศน์ ASTV บุคคลใกล้ชิด นายสนธิ เปิดเผยว่า ขณะนี้อาการของนายสนธิยังปลอดภัยหลังถูกคนร้ายถล่มยิงกว่า 100 นัด โดยภายนอกมีบาดแผลที่ศรีษะ เหนือคิ้วถูกกระสุนถาก และที่แขนมีรอยเล็กน้อย ส่วนอาการอื่นๆ ต้องรอการแถลงความชัดเจนจากคณะแพทย์
"ตอนนี้ทางกายภาพ คุณสนธิ ยังปลอดภัย ไม่ร้ายแรง แต่รายละเอียด คงต้องรอให้แพทย์แถลง" นายปานเทพ กล่าว
ส่วนคนขับรถ และการ์ด นายสนธิ ได้รับบาดเจ็บ และอยู่ระหว่างการรักษาตัวอยู่เช่นกัน อาการยังไม่ร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต
นายปานเทพ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ถล่มยิงนายสนธิครั้งนี้ คาดว่ามีมือปืนมากกว่า 2 คน เพราะใช้อาวุธสงครามถึง 3 ชนิด และเชื่อว่าเป็นคนในเครื่องแบบ เพราะผู้กระทำถือว่าถูกฝึกและมีการวางแผนมาอย่างดี
สำหรับเบาะแสเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สรุปได้ชัดเจนว่ามาจากเรื่องการเมือง เนื่องจากเหตุการณ์ต่างๆ และการเคลื่อนไหวของกลุ่ม พธม.และการวิพากวิจารณ์ของนายสนธิมีความล่อแหลมและเป็นปรปักษ์กับกลุ่มอำนาจหลายกลุ่ม ทำให้มีโอกาสถูกกำจัดทางการเมืองได้ เพื่อให้บทบาทของ พธม.และ ASTV น้อยลง แต่ยังไม่ต้องการระบุว่าเป็นฝีมือกลุ่มใด เนื่องจากในแต่ละช่วงเวลา สถานการณ์ต่างๆ จะแตกต่างกันและแต่ละกลุ่มก็มีความเป็นไปได้ทั้งสิ้น
"ยอมรับว่าคุณสนธิมีโจทก์เยอะ ส่วนจะบอกว่ากลุ่มไหน ไม่อยากสรุปเป็นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะแต่ละสถานการณ์ก็มีความเป็นไปได้ของกลุ่มหนึ่ง จึงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ผสมโรงของกลุ่มนั้นกลุ่มนี้...และอาจไม่ใช่กลุ่มเสื้อแดง ไม่อยากสรุป เพราะแต่ละช่วงเวลา ก็มีสถานการณ์ต่างกันไป เพราะช่วงเวลาหนึ่งอาจมีการกำจัด แต่เมื่อผ่านไปอาจไม่ใช่เป้าหมาย ก็ต้องรอพิสูจน์จากรัฐบาลจะจับตัวคนร้ายได้รวดเร็วมากน้อยแค่ไหน" นายปานเทพ กล่าว
นายปานเทพ กล่าวอีกว่า สำหรับแกนนำพธม.คนอื่น และ ASTV ได้มีการระวังตัวอยู่แล้ว เพราะถูกเป็นเป้าหมายมาโดยตลอด