โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) หวั่นสถานการณ์การเมืองตึงเครียดถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิต หลังเกิดเหตุนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยถูกคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยขอให้รัฐมนตรีทุกคนเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่ดูแลงานเกี่ยวกับความมั่นคง
"ที่ประชุม ครม.ได้พูดคุยถึงบุคคลที่อาจเป็นอันตราย โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่ดูแลด้านความั่นคงต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะรัฐมนตรีแต่ละคนก็รู้ดีว่าใครตกอยู่ในอันตรายบ้าง" นายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วทำให้รัฐบาลต้องกลับมาประเมินมาตรการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญให้มากขึ้น เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ยังมีการนำอาวุธสงครามมาก่อเหตุได้
ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้แสดงความกังวลในเรื่องดังกล่าว และยังระบุว่า หากผู้ใดเห็นว่าอยู่ในภาวะอันตรายก็ขอให้แจ้งเบาะแสมา รัฐบาลพร้อมที่จะดูแลให้ เพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุความรุนแรงขึ้นในบ้านเมือง และไม่ต้องการให้ใครนำเหตุการณ์ดังกล่าวไปขยายผลจนเกิดความขัดแย้งในสังคม
อย่างไรก็ตามจะมีการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับนายกรัฐมนตรีและ ครม.มากขึ้น ซึ่งในอนาคตจะต้องไม่ให้เกิดความผิดพลาดเหมือนที่ผ่านมาที่มีการทุบรถนายกรัฐมนตรีหรือรถเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
รายงานข่าว แจ้งว่า ขณะนี้มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับรัฐมนตรีหลายคน เช่น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เพิ่มชุดรักษาความปลอดภัยจากศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ, นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย, นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย และ นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ขอกำลังจากหน่วยอรินทราชมาดูแล เช่นเดียวกับนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยเช่นกัน