พธม.แถลงการณ์เรียกร้อง รบ.ไขน็อตกลไกด้านความมั่นคงหลัง"สนธิ"ถูกยิงถล่ม

ข่าวการเมือง Friday April 17, 2009 17:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงประณามผู้ก่อเหตุลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ได้รับบาดเจ็บ โดยเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งหาตัวคนบงการ เชื่อเป็นคนในอำนาจรัฐและอยู่ในเครื่องแบบ กล้าก่อเหตุอุกอาจท้าทาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ขณะที่รัฐบาลเองก็ต้องเร่งจัดระเบียบหน่วยงานรัฐโดยเฉพาะทหาร-ตำรวจให้กลับเข้าสู่กลไกที่มีประสิทธิภาพ แนะปลดผู้รับผิดชอบหน่วยงานด้านความมั่นคง

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวว่า ที่ประชุมแกนนำในวันนี้มีมติประณามคนที่ลงมือและคนที่เกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลังการลอสังหารนายสนธิว่าเป็นพฤติกรรมที่ป่าเถื่อนไร้มนุษยธรรม โดยเชื่อว่าเหตุครั้งมาจากความเกี่ยวข้องทางการเมือง เพราะบทบาทนายสนธิ ได้มายืนแถวหน้าต่อต้านระบอบทักษิณและความไม่ชอบธรรมใดๆ ของการเมืองเก่า

อย่างไรก็ตาม พันธมิตรฯยังไม่ปักใจเชื่อว่าใครอยู่เบื้องหลังตัวจริง แต่ให้โอกาสรัฐบาลหาตัวผู้กระทำผิด แม้เบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเกี่ยวข้องกับคนในอำนาจรัฐ น่าจะเป็นการปฏิบัติการของคนในเครื่องแบบ เพราะคนทั่วไปไม่น่าจะกล้าลงมือในช่วงที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากมีตำรวจทหารประจำการเป็น 100 จุด

ดังนั้น ขอให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลหาตัวคนที่เกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลังและรายงานให้ประชาชนทราบเป็นระยะๆ รวมทั้งนายกฯ ต้องจัดระเบียบหน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะตำรวจ ความล้มเหลวที่พัทยา การจลาจลในเมือง สะท้อนว่ากลไกรัฐล้มเหลวในการสนองตอบรัฐบาลและนายกต้องรับประกันว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก

นายสุริยะใส กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นภาพสะท้อนระบอบการเมืองเก่า ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราถูกกระทำ ตั้งแต่ช่วงการชุมนุม 193 วันที่ทำเนียบฯ ที่ดอนเมือง ที่เอเอสทีวี รวมทั้งพันธมิตรฯ ในต่างจังหวัดถูกกระทำทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่คดีไม่คืบหน้า และหลายครั้งที่เราถูกข่มขู่คุกคาม เพียงแต่เราไม่ได้แจ้งความ

นอกจากนั้น พันธมิตรยังขอให้ประชาชนที่มีภาพถ่ายหรือวีดีโอคลิปเหตุการณ์ลอบสังหารนายสนธิให้ติดต่อมาที่เอเอสทีวี เพื่อดำเนินการกับคนที่เกี่ยวข้องต่อไป

นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะมิคสัญญีแล้ว โดยสถานการณ์ขณะนี้มีการจัดตั้งกองกำลังที่ลดรูปลงมาจากการชุมนุมใหญ่มาเป็นกองโจร อาศัยการรบแบบจรยุทธ์ กำหนดเป้าหมายแต่ละครั้งเป็นจุดๆ แล้วล่าถอยไป สะท้อนว่าประเทศนี้ไม่มีความปลอดภัยอีกแล้ว

รัฐบาลใช้กฎหมายที่ให้อำนาจสูงสุดในการรักษาความปลอดภัยก็ยังเกิดเหตุแสดงว่ากลไกรัฐบางอย่างไม่ทำงาน การประกาศภาวะฉุกเฉินในการระงับเหตุร้ายของบ้านเมืองยังใช้ไม่ได้ เพราะกลไกรัฐบางส่วนโดยเฉพาะทหารและตำรวจไม่ทำงาน อาวุธสงครามยังผ่านเข้ามาได้ และทีวีวงจรปิดเสียหาย

"กลไกของรัฐสิ้นสภาพแล้ว เราจึงเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงภายในกลไกของรัฐ โดยสนับสนุนภาวะผู้นำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เปลี่ยนแปลงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้อำนวยการศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) ผู้อำนวยการข่าวกรอง สรุปคือเปลี่ยนผู้รับผิดชอบหน่วยงานด้านความมั่นคงทุกหน่วย ไม่เช่นนั้นนายกรัฐมนตรีเองก็อาจจะไม่รอด หลังจากนายกฯ ถูกคุกคาม 2 ครั้ง เลขาธิการนายกฯถูกกระชากลากถูลงมาจากรถ รองนายกฯด้านความมั่นคงก็โดน ขณะที่ผู้นำต่างประเทศที่มาร่วมประชุมต้องหนีกระเจิง" นายสมเกียรติ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ