ข้าหลวงใหญ่คณะกรรมมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ออกโรงวิพากษ์วิจารณ์สหรัฐและอีกหลายประเทศที่ถอนตัวจากการประชุมต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ พร้อมตำหนิว่าการกระทำดังกล่าวทำให้การแก้ปัญหาเป็นไปได้ยากกว่าเดิม
"หลายประเทศไม่เข้าร่วมการประชุมเพียงเพราะไม่พอใจปัญหาบางประการ จนหลงลืมไปว่าควรให้ความสำคัญกับกลุ่มคนจำนวนมากที่ต้องทุกทรมานกับการถูกเหยียดเชื้อชาติ" นาวี พิลเลย์ ข้าหลวงใหญ่คณะกรรมมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวในแถลงการณ์
โดยสหรัฐอ้างว่าเอกสารร่างสุดท้ายมีเนื้อหาอ้างอิงคำประกาศในปี 2544 (2001 Durban Declaration and Programme of Action หรือ DDPA) ซึ่งกล่าวถึงความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมและสหรัฐก็เคยปฏิเสธเอกสารดังกล่าวมาแล้ว ในขณะที่อิสราเอล นิวซีแลนด์ และ เยอรมนี ก็ตัดสินใจไม่เข้าร่วมการประชุมเช่นกัน
ทั้งนี้ การประชุมต่อต้านการเหยียดผิวซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 20-25 เม.ย.ที่กรุงเจนีวา จะเป็นการพิจารณาความคืบหน้าของคำประกาศในปี 2544 และคาดว่าจะมีตัวแทนจากนานาประเทศเข้าร่วมถึง 4,000 คน รวมถึงนายบัน กี-มุน เลขาธิการสหประชาชาติ และประธานาธิบดีมาห์มู้ด อาห์มาดิเนจ๊าด ของอิหร่านด้วย สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน