นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ระบุว่า การสลายการชุมนุมของรัฐบาลในช่วงเทศกาลสงกรานต์อาจทำให้การชุมนุมยุติ แต่ไม่สามารถแก้วิกฤติการเมืองได้ แต่จะยิ่งทำให้วิกฤติลงลึกและบานปลายมากขึ้น เพราะรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ กทม.ขณะที่มีเพียงการชุมนุมปิดถนนในขณะนั้น แต่ความรุนแรงต่าง ๆ เกิดขึ้นหลังการประกาศใช้ พ.ร.ก.ทั้งสิ้น
นอกจากนี้ การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เมื่อวันที่ 12 เม.ย.ยังเป็นการประกาศโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ดังนั้น การกระทำการตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย.จนถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษในวันที่ 17 เม.ย.จึงมีข้อสงสัยว่ารัฐบาลใช้อำนาจ พ.ร.ก.ฉบับนี้โดยผิดกฎหมาย
"ปัญหาเหล่านี้เกิดข้อสงสัยหวาดระแวง โกรธแค้นและมองว่ารัฐบาลกระทำผิดกฎหมายเสียเอง ขอเสนอว่ารัฐบาลควรตั้งกรรมการที่มีความน่าเชื่อถือขี้นมาตรวจสอบการกระทำทั้งหมด หากพบว่าผู้ใดกระผิดตั้งแต่เจ้าหน้าที่รัฐ จนถึงนายกฯ ก็ต้องดำเนินคดีลงโทษ และไม่ให้การสลายการชุมนุมครั้งที่ผ่านมาเป็นบรรทัดฐานการสลายการชุมนุมของประชาชนในครั้งต่อๆ ไปที่น่าจะเกิดขึ้นอีกมาก เพราะหากใช้วิธีนี้ต่อไปจะมีความเสียหายอย่างไม่สิ้นสุด" นายจาตุรนต์ กล่าว
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า การสลายการชุมนุมครั้งนี้ไม่ว่าจะมีคนตายหรือไม่มี ก็ถือว่ารัฐบาลมีความผิดแล้ว เพราะยิ่งหากพิสูจน์ว่ามีคนตายก็จะจะผิดมากขึ้น ไม่ใช่ว่าพิสูจน์แล้วไม่มีคนตายแล้วจะไม่ผิด และต้องมีการตรวจสอบการใช้กำลังทหารสลายการชุมนุมที่ผิดวิธี ซึ่งถือว่าเป็นความผิดสมบูรณ์ โดยไม่ต้องรอดูว่ามีประชาชนเสียชีวิตหรือไม่
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีพร้อมเปิดกว้างรับฟังความเห็นซึ่งรวมไปถึงการพิจารณากฎหมายนิรโทษกรรมแต่ต้องไม่รวมไปถึงคดีอาญานั้น มองว่าไม่ได้ทำเพื่อต้องการแก้ปัญหาการเมืองโดยแท้จริง แต่ต้องการนิรโทษกรรมให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ควรจะนิรโทษกรรมให้แก่ผู้ใดในขณะนี้ แต่ควรจะพิจารณาหลังจากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและมีการเลือกตั้งใหม่แล้ว โดยมอบหน้าที่นี้ให้แก่รัฐบาลและรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้พิจารณา
"ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งหากจะนิรโทษกรรมเพื่อให้ทุกเรื่องเจ๊ากันไป เพราะมันทำลายหลักนิติธรรมของประเทศ พันธมิตรฯ ทำผิดกฎหมายร้ายแรงและทำประเทศเสียหายแล้วจะนำมารวมกับนักการเมืองที่โดนกฎหมายเผด็จการทำลายนั้นไม่ได้ ส่วนคนเสื้อแดงไม่ได้ทำผิดร้ายแรงเท่าพันธมิตรฯ แม้คนบางส่วนไปทำผิดกฎหมายที่ต้องพิสูจน์โดยนิติวิทยาศาสตร์และต้องตัดสินตามข้อเท็จจริง" นายจาตุรนต์ ระบุ
อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เสนอว่า รัฐบาลต้องหยุดไล่ล่าปราบปรามที่เกินความจำเป็นอย่างทิ่เป็นอยู่ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด รวมทั้งรัฐบาลต้องหยุดควบคุมและแทรกแซงสื่อ แต่ควรให้โอกาสให้ฝ่ายอื่นได้ใช้สื่อบ้าง สุดท้ายรัฐบาลต้องประกาศยกเลิก พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินทันที โดยรัฐบาลควรใช้กฎหมายปกติ รวมทั้งเคารพการชุนุมโดยสันติที่ไม่ถือว่าเป็นความวุ่นวาย