สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศจำนวน 1,020 คน ที่ติดตามการประชุมร่วม 2 สภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 179 โดยไม่ลงมติเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน เรื่องสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองและตอบข้อสงสัย กรณีการสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง
โดยประชาชนส่วนใหญ่ 68.52% คิดว่า การเปิดอภิปรายครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการคลี่คลายปัญหา สร้างความสมานฉันท์ แต่ไม่สำเร็จตามวัตถุประสงค์เพราะยังคงมีความคิดเห็นที่ขัดแย้ง ไม่ตรงกันเหมือนเดิม ต่างฝ่ายต่างนำหลักฐานมาแสดงเพื่อชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดของกันและกัน มีแต่การเอาชนะคะคานกัน ขณะที่มีประชาชนเพียง 8.10% เท่านั้นที่คิดว่าสำเร็จเพราะรัฐบาลแสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้จบสิ้นโดยเร็ว นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ที่มีความใจกว้างพอ น่าจะอะลุ้มอล่วยกันได้ เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายอยากเห็นบ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติ
ประชาชนส่วนใหญ่ 41.29% ยังคิดว่าผลที่ได้รับจากการเปิดอภิปรายครั้งนี้ไม่คุ้มค่า เพราะอาจทำให้สถานการณ์ยิ่งบานปลายมากขึ้น เหมือนเป็นการขุดคุ้ยมากกว่า ต่างฝ่ายต่างยังคงมีทิฐิกันอยู่ แต่ประชาชนอีก 27.86% เห็นว่าคุ้มค่า เพราะทำให้ได้รับทราบข้อมูลข้อเท็จจริงมากขึ้น เป็นการเปิดโอกาสให้ ส.ส.อีกหลายท่านได้แสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจเป็นก้าวแรกที่จะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี
สำหรับจุดเด่น-ข้อดีของการเปิดอภิปรายในครั้งนี้ คือ ประชาชนได้รับทราบข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้น ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้ชี้แจงข้อมูลเหตุผลของแต่ละฝ่าย มีการนำภาพถ่ายภาพวิดีโอมาใช้ในการอภิปรายครั้งนี้ และเป็นการหาทางออกเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองให้ดีขึ้น
ด้านจุดด้อย-ข้อเสีย คือ มีแต่การกล่าวหากันไปมามากเกินไป ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น เป็นการสร้างความขัดแย้งให้รุนแรงมากขึ้น ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดอภิปรายในครั้งนี้ และทำให้เห็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมของนักการเมืองบางคน
ส่วนความคาดหวังของประชาชนต่อการเปิดอภิปรายในครั้งนี้ 44.46% คิดว่าไม่มีผลทำให้การเมืองไทยเปลี่ยนแปลง เพราะต่างฝ่ายต่างมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีนโยบายและแนวการทำงานที่แตกต่างกัน ขณะที่ 22.61% เห็นว่าดีขึ้นเพราะเป็นการกระตุ้นให้นักการเมืองปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องตรงไปตรงมา แต่อีก 12.59% เห็นว่าแย่ลง เพราะทำให้เกิดความแตกแยก แบ่งพรรคแบ่งฝ่ายเหมือนเดิม