นายเศวต ทินกูล อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) ปี 50 ยื่นหนังสือถึงนายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด(อสส.) ให้ตรวจสอบการกระทำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กับพวก ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 โดยขอให้อัยการสูงสุดใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68(2) ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยดำเนินการต่อไป โดยมี ร.ท.มนัส อุบลทิพย์ รองอัยการสูงสุด เป็นผู้แทนรับหนังสือไว้
โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคการเมือง 3 พรรค คือ พรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบสัดส่วนของพรรคการเมืองทั้ง 3 พรรคสิ้นสุดลง และไม่สามารถย้ายพรรคการเมืองภายในเวลา 60 วัน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 106(8)
ดังนั้นนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีที่มาจาก ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคพลังประชาชน ถือได้ว่าขาดสมาชิกภาพ กลับใช้อำนาจเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 15 ธ.ค.51 จึงเป็นการมิชอบตามรัฐธรรมนูญ อีกทั้งยังยินยอมให้ ส.ส.ระบบสัดส่วนที่ขาดสมาชิกภาพจากการถูกยุบพรรคทั้ง 3 พรรคเข้าร่วมประชุมเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี และเรียกตัวเข้าสภาเพื่อปฎิญาณตนเองเข้ารับตำแหน่งจึงเป็นการมิชอบ จากข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายดังกล่าวเป็นผลให้การประชุมสภาเลือกนายกรัฐมนตรีอันมิชอบด้วยกฎหมายจึงเป็นโฆษะ และทำให้คณะรัฐมนตรีมิชอบด้วยจึงเป็นโฆษะ
นายเศวต กล่าวว่า ในฐานะอดีต ส.ส.ร.ทำให้ทราบถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และเป็นผู้มีส่วนได้เสียที่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายโดยรวม และเป็นผู้ทราบถึงการกระทำอันมิชอบจึงขอให้ อสส.ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยตนเองได้ส่งวีซีดีบันทึกภาพการประชุม ส.ส.ร.ปี 50 ในหมวดหมู่ที่เกี่ยวข้องกับมาตราดังกล่าวประกอบการพิจารณาด้วย