นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการ"เชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯอภิสิทธิ์" ว่า สิ่งที่ภาครัฐฯจะต้องเร่งทำเป็นเรื่องของเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบรุนแรงยิ่งขึ้น จากปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้รายได้ได้รับผลกระทบ ทั้งจากการส่งออก และท่องเที่ยว รวมทั้งมีผลกระทบต่องบประมาณปี 2553 ที่จะต้องลดลง จาก 2 แสนล้านบาท ซึ่งคาดว่าทางหน่วยงานที่รับผิดชอบคงจะดำเนินการได้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ ในเรื่องที่มาของเงินลงทุนของภาครัฐฯในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ ภาครัฐฯคงจะต้องดูงบพวกที่ฟุ่มเฟือยของรัฐฯก่อน แต่ยืนยันได้ว่าจะไม่มีการตัดงบฯในส่วนของสิทธิของประชาชนอย่างแน่นอน โดยเฉพาะโครงการรักษาฟรี จะไม่มีการตัดงบฯ ซึ่งปีที่แล้ว(2551)ใช้งบฯไว้ 2,202 บาท/หัว จากที่ขอมา 2,300 บาท/หัว ส่วนปีนี้(2553)ก็ได้งบฯเพิ่มขึ้นเป็น 2,406 บาท/หัว จากที่ขอมา 2,600 บาท/หัว
นอกจากนี้ ในส่วนของการดูแลกลุ่มต่าง ๆ ก็ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง มีการเพิ่มสวัสดิการในการรักษาการเจ็บป่วยอันเกิดจากการปฏิบัติงานในหน้าที่ ก็จะเดินหน้าต่อไป ในด้านการท่องเที่ยว ก็จะมีการลดค่าขอวีซ่า, ค่าเข้าอุทยานฯ เป็นเวลา 1 ปี
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้เศรษฐกิจในต่างประเทศก็กำลังจะฟื้นตัวขึ้นมา เศรษฐกิจไทยก็กำลังจะฟื้นด้วย แต่เวลานี้มีปัญหาในเรื่องข้าวของแพง จากราคาหมูที่แพง ซึ่งก็คงจะมีการเรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อได้ภายใต้ภาวะการเมืองที่สงบ
นอกจากนี้ ก็จะต้องฟื้นฟูความเชื่อมั่น ด้วยการจัดประชุมอาเซียน ซึ่งขณะนี้กำลังประสานกับอีก 15 ประเทศ ซึ่งทุกประเทศก็อยากเร่งให้มีการประชุมเกิดขึ้น เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาเศรษฐกิจโลก และทางเขาก็อยากจะเห็นความสงบในประเทศของเรา โดยคาดว่าจะสามารถเปิดประชุมอาเซียนได้ในเดือนมิถุนายนนี้
นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงความจำเป็นในการประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ว่า เพื่อใช้กฎหมายจัดการ เพื่อไม่ให้สถานการณ์ลุกลาม จนกระทบประเทศและประชาชน ซึ่งได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ใช้ทุกมาตรการ อย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีสื่อมวลชน ทั้งไทยและต่างชาติ ร่วมอยู่ด้วย และให้หลีกเลี่ยงความรุนแรง อยู่ทำภายใต้กฎหมาย ยืนยันไม่มีผู้เสียชีวิต ในส่วนของผู้บาดเจ็บ เจ้าหน้าที่เร่งดูแลแล้ว
พร้อมกับยืนยัน รัฐบาลนี้ ไม่มี 2 มาตรฐาน ได้ทุ่มเททำงานเพื่อทุกคน ทำงานเสมอกภาค ส่วนการทำคดีที่เกี่ยวกับการชุมนุมและการตัดสิน เป็นอำนาจของตุลาการ และหน่วยงานอิสระ จะยึดตามกฎหมาย จะไม่เอาอำนาจพิเศษ ไปกลั่นแกล้ง หรือคุกคาม ผู้ใด