"สนธิ" แฉทีมลอบฆ่าเป็นทหารที่ถูกฝึกมาดี โดยหวังขู่การต่อสู้ภาคประชาชน

ข่าวการเมือง Sunday May 3, 2009 15:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เผยทีมลอบสังหารเป็นทหารที่ได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นการกระทำของทหารที่มีอิทธิพลบางคน ไม่เกี่ยวกับกองทัพ โดยหวังข่มขู่การเคลื่อนไหวต่อสู้ภาคประชาชน

"ผมยืนยันชัดด้วยสายตาว่าถูกยิงจากคนที่ถูกฝึก เพราะเป็นท่านั่งประทับยิง เป็นท่าที่ฝึกทางการทหาร ใช้รถจำนวน 4 คัน มีผู้ที่กระทำการประมาณ 10-16 คน เชื่อว่าการกระทำครั้งนี้เป็นการร่วมมือกันของผู้ที่มีอำนาจ และคนที่ลงมือรู้เส้นทางเดินรถ มีรถจอดรอเป็นจุด แต่การยิงไม่ใช่มืออาชีพ แต่เป็นขบวนการล่าสังหาร เชื่อว่าเป็นฝีมือของทหารบางคน ไม่ใช่ฝีมือของกองทัพ เชื่อว่ากองทัพไม่ทำเรื่องน่าอัปยศเช่นนี้" นายสนธิ กล่าว

นายสนธิถูกคนร้ายใช้อาวุธสงครามหลายชนิดกระหน่ำยิงใส่รถยนต์ที่นั่งมาเมื่อมาถึงบริเวณหน้าวัดเอี่ยมวรนุช ใกล้สี่แยกบางขุนพรหม ขณะกำลังเดินทางไปจัดรายการที่สถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี เมื่อช่วงเช้าตรู่วันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา

นายสนธิ กล่าวว่า ประเด็นการลอบสังหารตนเองครั้งนี้ แยกได้เป็น 2 ส่วน คือ การลอบสังหารในฐานะที่เป็นสื่อมวลชน ถือเป็นการคุกคามสื่อที่ไม่เคยมีมาก่อน และในฐานะแกนนำมวลชนที่ต่อสู้เรียกร้อง เพราะการกระทำที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

"ประเด็นการลอบสังหารไม่ใช่เรื่องส่วนตัว และเปรียบเหมือนเป็นการส่งสัญญาณบางอย่างว่าใครที่มีอำนาจ มีอาวุธในมือสามารถที่จะทำอะไรก็ได้" นายสนธิ กล่าว
นายสนธิ กล่าวว่า หากการลอบสังหารตนเองครั้งนี้สามารถทำได้สำเร็จจะสามารถล้มล้างรูปแบบที่ต่อสู้กันอย่างเปิดเผยจากภาคประชาชน เหมือนเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว และมีนัยทางอ้อมคือ การข่มขู่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
"หากฆ่านายสนธิได้ ก็ฆ่านายอภิสิทธิ์ได้ การข่มขู่สื่อมวลชนให้อยู่ภายใต้อำนาจ และการข่มขู่ขบวนการภาคประชาชน หากมีการเรียกร้องมากเกินความจำเป็นก็จะได้รับความตายไปแทน" นายสนธิ กล่าว

นายสนธิ ปฏิเสธกระแสข่าวที่ระบุถึงผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารครั้งนี้ คือ ท่านผู้หญิงวิริยา ชวกุล, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม หรือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) "ผมคิดว่าไม่ใช่กลุ่มบุคคคลเหล่านี้ และขอสมมตินะว่าหากเป็นบุคคลเหล่านี้จริงก็ขออโหสิกรรมต่อสิ่งที่เกิดขึ้น"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ