นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.)พร้อมด้วยทีมกฎหมายเดินทางไปยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เพื่อให้ตรวจสอบรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ที่อาจจงใจยื่นบัญชีอันเป็นเท็จ
คำร้องระบุว่านายบุญจงน่าจะยังคงไว้ซึ่งความเป็นหุ้นส่วนและผู้ถือหุ้นใน หจก.โชคชัยรวม 1990 ในลักษณะเป็นเจ้าของกิจการที่มีอำนาจบริหารจัดการ แต่มอบให้บุคคลใกล้ชิด คือ นางนฤพร เหมากระโชก เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการและถือหุ้นแทน โดย หจก.ดังกล่าวใช้สถานที่ตั้งเป็นบ้านของพี่สาวนายบุญจง ขณะที่ผู้จัดการคนปัจจุบันเป็นคนรับใช้ของนายบุญจงมานานนับ 10 ปี
แต่ที่ผ่านมานางนฤพรกลับมีรายได้ในการเสียภาษีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งๆ ที่ หจก.ดังกล่าวรับงานปีละนับร้อยล้านบาทในการรับเหมาก่อสร้างจากภาคเอกชน ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน จ.นครราชสีมา แต่ในทางตรงกันข้ามกับภรรยานายบุญจงที่แสดงสถานะอาชีพว่าเป็นแม่บ้าน แต่มีเงินเกือบ 200 ล้านบาท และไม่ได้แจ้งการครอบครองหุ้น
ดังนั้น พรรคจึงขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบว่านายบุญจงมีเจตนาจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ ตามความผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 263, พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34
อนึ่ง ตามระเบียบปฏิบัติของ ป.ป.ช.นั้น หากคณะกรรมการ ป.ป.ช.ตรวจสอบแล้วพบว่าเรื่องดังกล่าวมีมูลก็จะส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิจารณา โดยความผิดที่ระบุไว้ตามกฎหมายถึงขั้นต้องพ้นจากตำแหน่ง พร้อมรับโทษจำคุกและตัดสิทธิทางการเมือง
โฆษกพรรค พท. กล่าวว่า คณะทำงานและทีมกฎหมายกำลังรวบรวมข้อมูลหลักฐาน เพื่อเตรียมยื่นให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ตรวจสอบต่อเนื่องอีกเรื่องหนึ่ง คือ กรณีที่ หจก.โชคชัยรวม 1990 เข้าไปรับเหมาก่อสร้างจากส่วนราชการ โดยเฉพาะงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภายใน จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้กำกับดูแลของนายบุญจงโดยตรง
และคาดว่าไม่เกิน 30 วันจะสามารถนำหลักฐานมายื่นร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ เพื่อให้ตรวจสอบว่านายบุญจงใช้อำนาจหน้าที่ในฐานะ รมช.มหาดไทย เอื้อประโยชน์ให้กับห้างหุ้นส่วนดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งจะสามารถเอาผิดตามมาตรา 100 และ 157 ได้