นายปณิธาน วัตนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 2 ที่ประชุมได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมกำกับดูแลการดำเนินงานของ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) เกี่ยวกับการแก้ไขและป้องกันปัญหาผลกระทบทางเสียงของสนามบินสุวรรณภูมิ
นอกจากนี้ได้เห็นชอบให้มีการจัดตั้งกองทุนชดเชยผลกระทบ เพื่อใช้เป็นกลไกในการกำหนดมาตรการ วิธีการที่จะช่วยเหลือ และ ดำเนินการเพื่อบรรเทาผลกระทบที่มีต่อประชาชน โดยกองทุนจะมีรายได้จากผู้ใช้บริการในสนามบินสุวรรณภูมิ เช่น บริษัทสายการบิน ผู้ประกอบการต่างๆ ตลอดจนผู้โดยสาร เพื่อนำส่งกองทุนดังกล่าว
ส่วนรายจ่ายของกองทุนจะเป็นการจ่ายเพื่อแก้ไขและป้องกันปัญหาผลกระทบ เช่น การจ่ายค่าชดเชยเพื่อซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง การปรับปรุงอาคาร หรือการติดตั้งวัสดุลดเสียง เป็นต้น เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมให้กับชุมชนที่อาศัยโดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิ
รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่าที่ประชุมได้พิจารณาเรื่อง การกำหนดมาตรฐานระดับเสียงของรถยนต์สามล้อหรือรถตุ๊กตุ๊ก ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรมควบคุมมลพิษ ได้ศึกษารวบรวมข้อมูลเพื่ออกเป็นกฎกระทรวงว่าการกำหนดระดับเสียงของรถยนต์สามล้อ หลังจากกรมควบคุมมลพิษได้หารือกับหน่วยงานและผู้ประกอบการรถยนต์พร้อมกับได้กำหนดมาตรฐานระดับเสียงรถตุ๊กตุ๊กจะต้องไม่เกิน 95 เดซิเบลเอ เมื่อตรวจวัดระดับเสียงในระยะห่างจากรถยนต์ 0.5 เมตร และใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วัน นับถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
จากข้อมูลการตรวจวัดระดับเสียงของรถยนต์สามล้อ พบว่า ระดับเสียงรถยนต์รับจ้างสามล้อ(รถใหม่) มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 84.9 เดซิเบลเอ ไม่เกิน 100 เดซิเบลเอ ส่วนรถใช้งานเครื่องยนต์ 4 จังหวะ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 83.7 เดซิเบลเอ เครื่องยนต์ 2 จังหวะ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 93.9 เดซิเบลเอ ระดับเสียงรถยนต์สามล้อเครื่องยนต์ 2 จังหวะ ที่ติดตั้งอุปกรณ์ลดเสียง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 84.4 เดซิเบลเอ