นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้รับการคาดหมายเป็น 1 ในผู้ที่เหมาะสมจะเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เงื่อนไขอนาคตที่จะกลับเข้ามาเล่นการเมืองอีกหรือไม่นั้น ขึ้นกับว่าอยู่ในจุดที่จะสามารถเข้ามาทำงานให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติตามแนวทางที่หวังไว้ได้หรือไม่
"การเมืองเป็นหน้าที่ของทุกคนขึ้นอยู่กับใครพร้อมมากพร้อมน้อย ผมอยู่กับการเมืองมา 6 ปี ทำหน้าที่พอสมควรแล้ว ถ้าไม่จำเป็นก็คิดว่าจะเพียงพอแล้วสำหรับคนอายุขนาดผม ดังนั้น ขึ้นกับว่าเข้าไปแล้วจะทำหน้าที่ให้เป็นประโยชน์กับประเทศได้หรือไม่ ถ้าทำไม่ได้ หรือต้องไปเห็นในสิ่งที่ไม่อยากเห็น ก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าเข้าไปแล้วทำงานได้ มีประโยชน์ต่อบ้านเมือง ก็น่าจะเล่น"นายสมคิด กล่าว
อนึ่ง นายสมคิดเป็นหนึ่งใน 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปีจากกผลการยุบพรรคเมื่อ 30 พ.ค.50
นายสมคิด กล่าวว่า ในอดีตเคยมีความตั้งใจที่จะดูแลกระทรวงมหาดไทยหากสามารถเลือกได้ เพราะมองว่าการบริหารกระทรวงในแนวทางที่เหมาะสมก็จะสามารถพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศได้ดีมาก โดยการบริหารจะต้องกระจายออกเป็นกลุ่มในลักษณะ Cluster ที่จะต้องทำงานประสานกัน มีการออกแบบยุทธศาสตร์ของแต่ละ Cluster และจะต้องทำหน้าที่กำหนดรูปแบบของโครงสร้างในด้านต่าง ๆ ได้แก่ ท่องเที่ยว การเกษตร อุตสาหกรรม ขณะที่ส่วนกลางจะทำหน้าที่ดูแลภาพกว้าง ๆ
จุดที่สำคัญคือผู้ว่าราชการที่จะต้องเข้ามาทำหน้าที่หลักในการบริหารแต่ละ Cluster จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากผู้ที่มีความรู้ความชำนาญอย่างแท้จริง ไม่ใช่มาตามระบบราชการหรืออาวุโส เพื่อให้ Cluster ทำงานในรูปแบบของเอกชนมืออาชีพ เหมือนกับที่สหรัฐหรือจีนใช้ได้ผลมาแล้วกับระบบผู้ว่าการรัฐ และผู้ว่าการมณฑล
"ถ้าจะกลับเข้าการเมืองใหม่ ก็ต้องดูว่าสิ่งเหล่านี้ทำได้หรือไม่ ถ้าทำไม่ได้ก็อยู่เลี้ยงลูกดีกว่า"นายสมคิด กล่าว