(เพิ่มเติม) "พรทิวา"ปัดขัดแย้งนายกฯกรณีระบายข้าวโพด ยันเรื่องปกติที่เห็นต่างกัน

ข่าวการเมือง Thursday May 14, 2009 17:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ปฏิเสธไม่ได้ขัดแย้งกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กรณีที่โต้เถียงในที่ประชุม ครม.วานนี้เกี่ยวกับการระบายข้าวโพดในสต็อกของรัฐบาลจำนวน 4.49 แสนตัน โดยระบุว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ใน ครม.ต้องมีการถกเถียงกันว่า ใครมีความเห็นอย่างไรบ้าง

พร้อมกันนี้ยังปฏิเสธกรณีที่มีรายงานข่าวนายกรัฐมนตรีไล่นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน ออกจากห้องประชุม ครม.ว่า เป็นการเสนอข่าวเกินจริง นายกฯ ไม่ได้ไล่นายยรรยง แต่ตามปกติแล้วเมื่อข้าราชการชี้แจงข้อมูลเสร็จก็ต้องออกจากห้องประชุมอยู่แล้ว ไม่อยากให้เข้าใจนายกรัฐมนตรีในทางที่ผิด

รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า การดำเนินการระบายสต็อกข้าวโพดนั้นเป็นไปตามกรอบอำนาจ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ และไม่รู้สึกน้อยใจที่กระทรวงพาณิชย์ถูกตัดงบประมาณ อีกทั้งเชื่อว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นคงไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาล

นางพรทิวา กล่าวอีกว่า ไม่รู้สึกท้อใจหรือกังวลว่าหลังเกิดเหตุขัดแย้งกับนายกรัฐมนตรีแล้วจะทำให้ถูกปรับออกจาก ครม. เพราะการที่มีความเห็นไม่ตรงกันถือเป็นเรื่องธรรมดา และตนเองพร้อมทำตามมติ ครม.ที่ให้นำเรื่องสต็อคข้าวโพดเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

การที่รัฐบาลเปิดโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรต้องยอมรับเรื่องการขาดทุน เพราะราคารับจำนำมีราคาสูง ถ้าจะไม่ให้ขาดทุนคงเป็นไปไม่ได้ เพราะการรับจำนำเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร

รมว.พาณิชย์ ยังปฏิเสธด้วยว่าไม่ได้ร้องไห้ตามที่มีรายงานข่าว เพราะเหตุขัดแย้งที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องธรรมดา

"เป็นเรื่องเล็ก...เรื่องใหญ่กว่านี้ยังไม่ร้องเลย เรื่องนี้เล็กนิดเดียวเอง" นางพรทิวา กล่าว

อย่างไรก็ตาม หลังผู้สื่อข่าวถามว่ามีการต่อว่านายกรัฐมนตรีทำงานสองมาตรฐานในที่ประชุม ครม.จริงหรือไม่ ทำให้นางพรทิวาอยู่ในอาการอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนที่จะระบุว่า ไม่ขอตอบเรื่องนี้ ก่อนที่จะรีบเดินเลี่ยงหนีไปทันที

นางพรทิวา กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์จะนำเสนอข้อมูลอย่างละเอียดมากขึ้นในการระบายสต็อกข้าวโพด และนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แห่งชาติในครั้งหน้า เพื่อจะได้ตัดสินใจว่าจะอนุมัติให้ขายได้หรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว

"ในที่ประชุม ครม. เราชี้แจงว่า มีผู้ชนะการประมูลกี่ราย แต่ละรายเสนอซื้อปริมาณเท่าไร ให้ราคาเฉลี่ยเท่าไร ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด เพราะคิดว่าไม่จำเป็น แต่ ครม.อยากทราบว่า แต่ละรายซื้อจากคลังสินค้าใดบ้าง ในราคาเท่าไร ซึ่งเราก็จะทำรายละเอียดให้มากขึ้น เพื่อเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ตัดสิน คาดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรแล้ว" นางพรทิวา กล่าว

ด้านนายประพล มิลินทจินดา เลขานุการ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า หากกระทรวงพาณิชย์เสนอผลการประมูลต่อคณะกรรมการชุดใหญ่อีกครั้ง แล้วไม่อนุมัติขายก็จะเกิดปัญหาว่าผู้ชนะการประมูลทั้ง 3 รายจะยอมซื้อตามราคาเดิมหรือไม่ เพราะในเงื่อนไขการประมูล ระบุให้ผู้ชนะการประมูลยืนราคาเสนอซื้อ 15 วัน แต่ขณะนี้ราคาตลาดโลกลดลงจากวันที่เปิดประมูลเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมามาก

โดยราคาตลาดโลกปัจจุบัน กก.ละกว่า 4 บาท แต่ราคาตลาดโลก ณ วันเปิดประมูล กก.ละ 6.50 บาท จึงมีความเป็นไปได้ว่าทั้ง 3 ราย อาจยกเลิกการซื้อครั้งนี้ แต่หากนายกอร์ปศักดิ์ไม่อนุมัติขายครั้งนี้ก็จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากการระบาย และอาจเป็นช่องทางให้ผู้ชนะการประมูลฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้

"เร็วๆ นี้ กระทรวงพาณิชย์จะเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ ให้พิจารณาว่าจะขายข้าวโพดล็อตนี้หรือไม่ โดยจะยึดเอาผลการประมูลเดิม ที่คณะอนุกรรมการด้านการตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มี รมว.พาณิชย์เป็นประธาน ได้อนุมัติขายให้กับผู้ชนะการประมูลทั้ง 3 ราย ถ้าชุดใหญ่ไม่ขายก็จะเกิดความเสียหายทั้งกับผู้ชนะการประมูลและภาครัฐเอง แล้วใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ เข้าใจว่าท่านรองนายกฯ กลัวขายแล้วจะขาดทุน จนลืมมองความเสียหายจะเกิดขึ้นตามมาอีกมาก" นายประพล กล่าว

สำหรับความเสียหายของผู้ชนะการประมูลจะเกิดจากการไม่สามารถส่งมอบข้าวโพดได้ทันตามสัญญา และอาจถูกผู้ซื้อเรียกร้องค่าเสียหาย ซึ่งก็จะทำให้ผู้ชนะการประมูลอาจฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากภาครัฐได้ ส่วนภาครัฐหากยังไม่ขายขณะนี้แต่จะเก็บไว้เพื่อเปิดประมูลใหม่ ก็จะยิ่งทำให้ข้าวโพดเสื่อมคุณภาพ ขายได้ราคาต่ำลงไปอีก ทำให้รัฐเสียโอกาสในการขายได้ราคาดี

ขณะเดียวกัน รัฐยังต้องเสียค่าบริหารจัดการสต็อก ประกอบกับในเร็วๆ นี้ ผลผลิตข้าวโพดฤดูกาลใหม่จะออกสู่ตลาด หากยังไม่สามารถระบายสต็อกเก่าออกไปได้ ก็จะยิ่งฉุดให้ราคาภายในตกต่ำลงอีก และรัฐต้องเสียงบประมาณในการรับจำนำและบริหารจัดการสต็อกใหม่อีกมหาศาล

นายประพล กล่าวต่อว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทุกฝ่ายนั้น กระทรวงพาณิชย์คงไม่สามารถรับผิดชอบได้ เพราะได้สงวนสิทธิ์ในที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ครั้งก่อนแล้วว่า การชะลอขาย หากเกิดความเสียหายขึ้นกับทุกฝ่าย ไม่ถือว่าเป็นความผิดของกระทรวงพาณิชย์ เพราะได้ทำตามมติคณะกรรมการชุดใหญ่อย่างถูกต้องทุกขั้นตอนแล้ว

อย่างไรก็ตาม เลขานุการ รมว.พาณิชย์ ยืนยันว่า กระทรวงพาณิชย์ขายข้าวโพดล็อตนี้อย่างโปร่งใส และถูกต้องตามขั้นตอนทุกอย่าง ราคาที่อนุมัติขายต่ำกว่าราคาตลาดไม่มาก โดยขายที่ราคาเฉลี่ย กก.ละ 4.50-5 บาท แต่กลับกลายเป็นจำเลยของสังคม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ