ในวันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีในพิธีเปิดป้ายที่ทำการพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) ร่วมกับนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย
โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณพรรค ชทพ.ที่ได้เข้าร่วมทำงานภายใต้รัฐบาลเดียวกัน และได้ฝากให้พรรค ชทพ.ร่วมฝ่าฟันฝ่าปัญหาการเมือง เพื่อช่วยให้บ้านเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้ง นอกจากนี้ยังได้อวยพรให้พรรค ชทพ.ประสบความสำเร็จในการทำงานทางการเมือง และร่วมกันสร้างสรรค์พัฒนาบ้านเมืองต่อไป
ด้านนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะหัวหน้าพรรค ชทพ. กล่าวยอมรับว่า ตนเองยังอ่อนประสบการณ์ในงานทางการเมือง เพราะตลอดเวลาที่เป็น ส.ส.มา 8 สมัย จะมีผู้ให้ความช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา และโดยส่วนตัวจะทำงานด้านวิชาการเป็นหลักมากกว่า
ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศขณะนี้ถือเป็นช่วงที่ตกต่ำมากที่สุด บรรยากาศทางการเมืองเหมือนช่วงสูญญากาศ รัฐบาลเพียงทำหน้าที่ประคองตัวไปวันๆ โดยยังไม่ทราบแนวทางชัดเจนในอนาคต เพราะจากวิกฤติการเมืองจากเหตุการณ์การปิดสนามบิน และการล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยาได้ส่งผลให้ประเทศเกิดความเสียหายมาก และในฐานะที่เป็น รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้เจรจากับนักท่องเที่ยวต่างประเทศได้ยากขึ้น โดยปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นทั้งหมดเกิดจากคนเพียงสองคนที่ทะเลาะคนจนนำไปสู่ปัญหาบานปลาย
"การเมืองตกต่ำสุดๆ เป็นผลจากคนสองคนที่เคยกอดคอกันมา สุดท้ายก็แตกคอกัน เอาประเทศชาติเป็นตัวประกัน โดยรัฐธรรมนูญปี 40 ไม่ได้เกี่ยวข้อง" นายชุมพล กล่าว
นายชุมพล ยังเชื่อมั่นว่า พรรคชาติไทย(ชท.) จะกลับมาทำงานบนเส้นทางการเมืองอีกครั้ง ขณะที่ตนเองพร้อมสานต่อจุดยืนของพรรคชาติไทยในอดีต เพื่อช่วยพัฒนาประเทศต่อไป
"ผมจะพยายามขับเคลื่อนจุดยืน และนโยบายที่พรรคชาติไทยเคยทำมาแล้ว และผมยังมีความเชื่อมั่นว่าชื่อพรรคชาติไทยจะกลับมาแน่นอนในอีกไม่นานนี้" นายชุมพล กล่าว
นายชุมพล กล่าวอีกว่า ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนายังยืนยันการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงบางมาตรา โดยให้นำข้อดีของรัฐธรรมนูญปี 40 และปี 50 มาประกอบกันเพื่อจัดทำเป็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยไม่จำเป็นต้องทำประชาพิจารณ์