นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เผยนัดคณะกรรมการยุทธศาสตร์ควบคุมการระบายสินค้าเกษตรเคลียร์ปัญหาคาใจที่ห้องทำงานในช่วงเย็นวันนี้ หลังได้รับมอบหมายจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยมั่นใจจะทำหน้าที่คนกลางประสานความเข้าใจระหว่างรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล
"ผมมันประเภทยาสามัญประจำบ้านอยู่แล้ว เป็นอะไรก็ใช้ได้ ปวดหัวตัวร้อนก็ทาได้ถูได้ไม่มีปัญหา เชื่อว่าจะทำให้บรรยากาศดีขึ้น ประสานรอยร้าวได้ ทุกอย่างต้องดี ผมรับรองว่าดีและจะได้มาตรการแนวทางที่ผมเชื่อว่ามีเหตุมีผล และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ผมเป็นคนมองโลกในแง่ดี ผมไม่ค่อยมีปัญหา" นายสุเทพ กล่าว
เมื่อวานนี้(26 พ.ค.) ที่ประชุม ครม.มอบหมายให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นคนกลางพิจารณาเรื่องหลักเกณฑ์การระบายสินค้าเกษตร หลังเกิดปัญหานายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี และนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ มีความเห็นไม่ตรงกัน โดยมีนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง และนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เข้าร่วมประชุมด้วย
นายสุเทพ กล่าวว่า แม้จะเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง แต่มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับรัฐมนตรีทุกคน จึงต้องมาช่วยดูแลเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจด้วย ทั้งข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ซึ่งเป็นพืชสำคัญทางการเกษตรที่เป็นอาชีพของคนส่วนใหญ่ในประเทศ ดังนั้นจึงต้องพยายามช่วยดูแลเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ดีและต้องทำให้ภาครัฐมีวิธีการบริหารจัดการที่ราบรื่นด้วย
ส่วนกระแสข่าวความขัดแย้งระหว่างนายกอร์ปศักดิ์กับนางพรทิวานั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ความเห็นในเรื่องบ้านเมืองสามารถมีความแตกต่างได้ถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งไม่คิดว่าเป็นเรื่องของความขัดแย้ง ก็จะพยายามให้ทุกฝ่ายมีโอกาสพูดคุยกันให้มาก และเชื่อว่าการพูดคุยด้วยเหตุผลจะทำให้ได้แนวทางที่ดีของแต่ละฝ่าย รวมทั้งจะได้ผลสรุปอันเป็นที่ยอมรับกันได้ของทุกฝ่าย
นายสุเทพ กล่าวว่า แนวคิดในการตั้งคณะกรรมการชุดนี้มาจากการที่นายกรัฐมนตรีอยากให้มีคณะกรรมการชุดเล็กๆ ได้มีโอกาสนั่งคุยกันยาวๆ ในเรื่องนี้ตนเองจึงได้อาสาเข้ามา แต่จะดำเนินการเฉพาะกิจหรือต่อเนื่องนั้นขึ้นอยู่กับคำสั่งของนายกรัฐมนตรี โดยตนเองจะไม่ลงไปดูรายละเอียดในเรื่องการประมูลข้าวของเอกชนครั้งที่ผ่านมา เพราะต้องเคารพความคิดเห็นของกรรมการคนอื่นและต้องให้ได้ผลดีที่สุดก่อนนำเสนอ ครม.จากนั้นจึงจะแจ้งให้ทราบรายละเอียด
"คิดว่าคณะกรรมการฯ จะพูดคุยวันนี้ 1 ครั้ง และอาจจบในวันนี้ หากทุกอย่างลงตัว แต่ถ้ายังต้องไปดูข้อมูลหรือหาความรู้เพิ่มเติมก็อาจได้ข้อยุติประมาณวันจันทร์หรืออังคารได้ เพราะวันพุธที่ 3 มิถุนาฯ ผมต้องนำเสนอเข้าที่ประชุม ครม." นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ ยืนยันว่า เรื่องนี้จะไม่ส่งผลให้เกิดรอยร้าวในรัฐบาล และไม่มีความรุนแรงใดๆ ทั้งสิ้น เพราะสามารถพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคได้ไม่มีปัญหา
ส่วนโครงการเช่ารถเมล์ NGV 4,000 คันนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ในหลักการคิดว่าทุกคนเห็นด้วย เพราะ ขสมก.ไม่มีเงินจำนวนมากในการบริหารจัดการด้วยวิธีซื้อรถมาตามปกติแล้วแบกภาระค่าผ่อนรถและค่าบำรุงรักษา อีกทั้งการปรับเปลี่ยนวิธีใหม่ในการจัดเก็บค่าโดยสาร เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชนมากขึ้น แต่ที่ ครม.ท้วงติง คือ ค่าเช่าแพงเกินไปหรือไม่
"กระทรวงคมนาคม และ ขสมก.มีคำอธิบายเป็นตัวเลข ยิ่งมีคำอธิบายมากทำให้ยิ่งมีข้อสงสัยมากเป็นเรื่องปกติ ซึ่ง ครม.มอบหมายให้ผมไปช่วยประสานงานพูดจา คือ ขอให้เป็นรถยนต์ที่ประกอบในเมืองไทยให้มากที่สุด โดยอยากได้ประมาณ 70% จึงมีความพยายามแก้ไขปรับปรุงกันไป เพื่อให้เกิดผลประโยชน์ต่อประเทศให้มากที่สุด" นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ทักท้วงไว้ทุกข้อเมื่อครั้งเป็นฝ่ายค้านได้นำมาบอกทุกข้อ และขอให้ ขสมก.บรรจุเป็นเงื่อนไขในการจัดหาด้วย และการที่ ครม.ตีกลับ 2 โครงการใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย ทั้งการระบายข้าวและการเช่ารถเมล์จะไม่เกิดปัญหากับพรรคร่วมรัฐบาล จนส่งผลกระทบต่อการประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ เพื่อโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 53 และ พ.ร.บ.เงินกู้ 4 แสนล้านบาท