นายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เปิดเผยว่า นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎรมีคำสั่งเป็นวาจาให้ระงับการอนุมัติการเดินทางไปต่างประเทศของคณะกรรมธิการสามัญประจำสภาระหว่างการปิดสมัยประชุมสภา เนื่องจากกังวลว่าหากมีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญในวันที่ 15-25 มิ.ย.ซึ่งอาจเป็นช่วงคาบเกี่ยวกับส.ส.อยุ่ระหว่างการเดินทางไปต่างประเทศได้ และอาจทำให้มีปัญหาในเรื่ององค์ประชุมได้
นอกจากนี้ทางรัฐบาลเองได้ขอความร่วมมือ ไม่ให้มีการเดินทางไปต่างประเทศ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
ทั้งนี้ การเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญในครั้งนี้ จะมีการพิจารณาร่างงบประมาณประจำปี 53 รวมถึง พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ วงเงิน 4 แสนล้านบาท และข้อตกลงระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
ด้านนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคาร และสถาบันการเงิน กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของประธานสภา เนื่องจากทางนายชัยก็ได้เดินทางไปต่างประเทศหลายครั้งแล้ว และขณะนี้ก็ยังอยู่ที่ต่างประเทศ ดังนั้น จึงไม่ควรห้ามไม่ให้คณะกรรมาธิการไปดูงานต่างประเทศ เพราะการดูงาน ถ้ารู้จักดูก็จะมีประโยชน์อย่างมาก
และวันนี้ คณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 35 คณะมีมติให้ ร่างพ.ร.บ.ผู้สูงอายุ ผ่านการเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรมาแล้วในวาระ 2 ว่าเป็น พ.ร.บ.การเงิน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 149 เป็นกฎหมายการเงินที่มีการผูกพันกับงบประมาณประจำปี โดยมีการจ่ายเบี้ยยังชีพทุกเดือนตลอดไป ไม่ใช่จ่ายเพียงชั่วคราว โดยประธานสภาผู้แทนราษฎรจะส่งเรื่องกลับไปให้นายกรัฐมนตรีลงนามรับรอง และส่งกลับมาให้ที่ประชุมสภาฯพิจารณาให้ความเห็นชอบในวาระ 3 ก่อนที่จะส่งไปยังวุฒิสภาเพื่อพิจารณาต่อไป