นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย(พท.) ระบุว่า โครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน ที่คณะรัฐมนตรีมีมติส่งให้บอร์ดสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)ไปศึกษาโครงการเป็นเวลา 1 เดือนนั้น เชื่อว่าไม่ได้ช่วยให้เกิดประโยชน์อะไร เพราะสุดท้ายก็เป็นแค่การสรุปว่าจะดำเนินการได้ในราคาที่ถูกหรือแพงกว่าเดิมเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ ตนได้เคยทำหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีแล้ว และชี้แจงให้เห็นว่ามีบริษัทเอกชนที่สามารถทำได้ในราคา 2,500 บาท/คัน/วัน พร้อมทั้งมีอู่รถพร้อม ไม่เป็นภาระขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) แต่ก็ไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้
ส่วนอีกโครงการที่ต้องจับตา คือโครงการรถเมล์ด่วนบีอาร์ทีของกทม. ซึ่งทราบว่าจะต้องเร่งเปิดให้เดินรถภายในปีนี้ โดยขณะนี้มีรถที่อยู่ระหว่างการรอเซ็นสัญญา 45 คัน จากเดิมกำหนดราคาไว้คันละ 8 ล้านบาท แต่ได้ลดลงมาเหลือคันละ 7 ล้านบาท และปรับลดความยาวของตัวรถจาก 18 เมตร เหลือ 12 เมตร ใช้งบประมาณจัดซื้อรถรวม 387 ล้านบาท
พร้อมทั้งมีงบประมาณในการสร้างทางเดินรถบีอาร์ทีอีก 661 ล้านบาท และงบสร้างสถานีควบคุมอีก 405 ล้านบาท รวมงบประมาณกว่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งจุดนี้ควรต้องตรวจสอบรอบคอบ
ด้านนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้รัฐบาล และนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เลิกเล่นละครน้ำเน่า เพราะโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวีไม่สามารถตรวจสอบความโปรงใสได้ พร้อมฟังธงว่าตอนนี้เป็นการนับถอยหลังไปสู่การยุบสภา
"วันนี้พรรคประชาธิปัตย์กำลังเล่นเกมที่ตัวเองถนัด อยากฝากไปถึงพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ว่าตอนนี้กำลังเอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น โครงการนี้ถ้านายอภิสิทธิ์ไม่สามารถตัดสินใจได้ก็ไม่ควรอยู่บริหารประชเทศต่อไป วันนี้รัฐบาลควรเอาความจริงมาพูดกัน เพราะบ้านเมืองกำลังเสียหาย"นายสุรพงษ์ กล่าว