การเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภายุโรป ซึ่งเป็นหน่วยงานนิติบัญญัติที่มีอำนาจสูงสุดของสหภาพยุโรป (อียู) ได้เปิดฉากขึ้นแล้วในวันนี้ โดยเริ่มต้นที่สหราชอาณาจักรและเนเธอร์แลนด์เป็นสองประเทศแรก
การเลือกตั้งรัฐสภายุโรปจะมีขึ้นใน 27 ประเทศสมาชิกอียู ระหว่างวันที่ 4 -7 มิ.ย.นี้ เพื่อคัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในรัฐสภาเป็นเวลา 5 ปี รวม 736 ที่นั่ง ซึ่ง 72 ที่นั่งจะมาจากสหราชอาณาจักร โดยสกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ จะได้สิทธิในสภายุโรปจำนวน 6, 4 และ 3 ที่นั่งตามลำดับ ขณะที่ 59 ที่นั่งที่เหลือมาจากอังกฤษ ขณะที่เนเธอร์แลนด์จะได้สิทธิในสภา 25 ที่นั่ง
โดยเยอรมนี ซึ่งมีประชาการมากที่สุด จะได้ที่นั่งสูงสุด 99 ที่นั่ง ขณะที่มอลตาจะได้น้อยสุดเพียง 5 ที่นั่ง
สำหรับผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งรัฐสภายุโรปครั้งนี้มีอยู่มากกว่า 375 ล้านคน แต่คาดว่าจะมีผู้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนในระดับต่ำ หลังจากที่ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2547 นั้น มีผู้ออกไปใช้สิทธิ 38% ในสหราชอาณาจักร และ 39% ในเนเธอร์แลนด์ โดยประเทศสมาชิกใหม่ในแถบยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกมีผู้ออกไปใช้สิทธิน้อยที่สุด
ในวันเดียวกันนี้ อังกฤษเองก็ได้จัดการเลือกตั้งท้องถิ่นขึ้น ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นที่จับตาหลังจากเกิดเหตุการณ์อื้อฉาวที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเบิกจ่ายเงินงบประมาณไปใช้
ผลการสำรวจโดย ICM Ltd. เผยว่า พรรคแรงงานของนายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ อาจเข้ามาเป็นที่ 3 ตามหลังพรรคอนุรักษ์นิยมและพรรคเสรีประชาธิปไตย เมื่อมีการประกาศผลการเลือกตั้งท้องถิ่นในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ และผลการเลือกตั้งรัฐสภายุโรปในวันอาทิตย์นี้
ทั้งนี้ พรรคแรงงานมีคะแนนนิยมล่าสุดอยู่ที่ 17% ตามหลังพรรคอนุรักษ์นิยมที่มีอยู่ 29% และพรรคเสรีประชาธิปไตยที่มีอยู่ 20%