ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดพิพากษาคดีทุจริตจัดซื้อกล้ายางพาราจำนวน 90 ล้านต้น มูลค่า1,440 ล้านบาท ตามที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.)เป็นผู้ยื่นคำร้อง ในวันที่ 17 ส.ค.52 เวลา 14.00 น.
นายเจษฎา นุจารีย์ ทนายความของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ซึ่งเข้ามารับผิดชอบคดีแทน คตส.เปิดเผยว่า หลังจากกระบวนการไต่สวนพยานเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ศาลฎีกาฯ ได้มีคำสั่งให้คู่ความทั้ง 2 ฝ่าย ยื่นคำแถลงปิดคดีเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันที่ 11 ส.ค.นี้ และนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 17 ส.ค.52 เวลา 14.00 น.
คดีนี้ คตส.เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยรวม 44 คนเองโดยไม่ผ่านอัยการสูงสุด เนื่องจากอัยการมีความเห็นว่าสำนวนคดีของ คตส.ไม่สมบูรณ์ คตส.จึงดึงสำนวนกลับคืนมาฟ้องเองเช่นเดียวกับคดีหวยบนดิน
สำหรับจำเลยทั้ง 44 คน ประกอบด้วย นักการเมืองที่เป็นอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งส่วนใหญ่ถูกฟ้องเพราะเป็นกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และกรรมการนโยบายและมาตรการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร(คชก.) ได้แก่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, นายวราเทพ รัตนากร อดีต รมช.คลัง, นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์, นายเนวิน ชิดชอบ อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายอดิศัย โพธารามิก อดีต รมว.พาณิชย์ ตลอดจนข้าราชการและบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้อง
คตส.กล่าวหาว่าจำเลยทั้งหมดร่วมกันกระทำผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตตามกฎหมายอาญา มาตรา 157, เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ จัดการหรือรักษาทรัพย์สินใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐ มาตรา 151, ผู้ใดทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จเพื่อให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินอันเป็นความผิดฐานฉ้อโกง ประกอบ มาตรา 83, 84 และ 86 และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 4, 10-14 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 11