ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ของสหรัฐ ได้ออกมาเตือนอิหร่านให้ยุติการกระทำที่รุนแรงและไม่ชอบธรรมกับประชาชนของตนเอง หลังจากที่เหตุประท้วงผลการเลือกตั้งยังคงดำเนินต่อไปและทวีความรุนแรงขึ้น
ในแถลงการณ์จากทำเนียบขาวเมื่อวันเสาร์ ผู้นำสหรัฐระบุว่า รัฐบาลอิหร่านต้องเคารพต่อสิทธิที่เป็นสากลในการชุมนุมและเสรีภาพในการพูด และสหรัฐอเมริกาจะยืนหยัดเคียงข้างทุกคนที่แสดงสิทธิเหล่านั้น
เขากล่าวว่า รัฐบาลอิหร่านต้องเช้าใจว่าโลกทั้งโลกกำลังจับตาดู การห้ามความคิดไม่ใช่วิธีที่จะสลายการชุมนุม ชาวอิหร่านจะตัดสินการกระทำของรัฐบาลของพวกเขาเอง
"ถ้ารัฐบาลอิหร่านต้องการความเคารพนับถือจากประชาคมโลก รัฐบาลอิหร่านก็ต้องเคารพในศักดิ์ศรีของประชาชนของตนเอง และปกครองประเทศด้วยการยินยอมอนุญาต ไม่ใช่การบังคับขู่เข็ญ"
ขณะเดียวกัน รายงานระบุว่า เมื่อวันเสาร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามการจลาจลของอิหร่านได้ใช้แก๊สน้ำตา กระบอง และปืนฉีดน้ำ ปะทะกับผู้ชุมนุมหลายหมื่นคนที่พยายามจัดการประท้วงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ซึ่งปรากฏว่า มาห์มุด อาห์มาดิเนจ๊าด เป็นฝ่ายคว้าชัยถล่มทลายและเตรียมขึ้นเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2
โดยเหตุการณ์ประท้วงดูเหมือนจะยิ่งทวีความรุนแรงหลังจากที่เมื่อวันศุกร์ อยาตุลเลาะห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ได้เรียกร้องให้ยุติการประท้วง ส่งผลให้ วานนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติได้ออกมาเตือน มีร์ ฮอสเซน มูซาวี ผู้พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีอิหร่าน ไม่ให้จัดการประท้วงใดๆขึ้นอีก มิฉะนั้นเขาต้องเป็นผู้รับผิดชอบกับผลที่ตามมา