นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการไต่สวนได้ตรวจสอบเอกสารหุ้นบุริมสิทธิ์ และขอให้ผู้บริหารบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการถือหุ้นของ ส.ส.ทั้ง 89 คนมาชี้แจงว่าเข้าข่ายถือหุ้นบริษัทที่รับสัมปทานกับรัฐตามรัฐธรรมนูญปี 50 มาตรา 265 หรือไม่ โดยคาดว่า กกต.จะสามารถพิจารณาได้ภายในสัปดาห์นี้ และยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญภายในสัปดาห์นี้เช่นกันเพื่อวินิจฉัยต่อไป
สำหรับหลักเกณฑ์เบื้องต้นนั้น กกต.ได้แยกการพิจารณาประเภทหุ้นเป็นหุ้นธรรมดากับหุ้นต้องห้าม(หุ้นที่เป็นสัมปทานกับรัฐ) ออกจากกัน ซึ่งในการพิจารณาการถือหุ้นของ ส.ส.ทั้ง 89 คนนั้น กกต.จะยึดผลการพิจารณาตามคำตัดสินของ 16 ส.ว.ที่ได้ตัดสินไปก่อนหน้านี้แล้วว่าฝ่าฝืนตามมาตรา 48 ประกอบมาตรา 265(2),(4)ของรัฐธรรมนูญอันเป็นเหตุให้สมาชิกภาพการเป็น ส.ส. สิ้นสุดลง
อย่างไรก็ดี การถือหุ้น บมจ.การบินไทย(PTT) ไม่ถือว่าเข้าข่ายเป็นบริษัทต้องห้าม เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ยังมีการแข่งขัน ขณะที่ บมจ.ปตท.(PTT) ถือว่าเข้าข่ายสัมปทานกับรัฐ