นายซูซิโล บัมบัง ยุดโยโน่ ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ได้รับความไว้วางใจจากชาวอินโดนีเซียกว่า 176 คนล้านคนอีกครั้ง จากผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการที่บ่งชี้ว่า ยุดโยโน่คว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งประธานาธิบดีอินโดนีเซียด้วยคะแนนสูงถึง 61% เฉือนเอาชนะคู่แข่งคนสำคัญอย่างนางเมกาวาตี ซูกาโน บุตรี ที่ได้เพียง 26.6% และนายยูซุฟ กัลลา ที่ได้คะแนนไปเพียง 12%
คะแนนเลือกตั้งที่นำหน้าคู่แข่งแบบไม่เห็นฝุ่นทำให้ยุดโยโน่มีโอกาสรั้งเก้าอี้ประธานาธิบดีอินโดนีเซียเป็นสมัยที่ 2 ไปอีก 5 ปี ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าชัยชนะของยุดโยโน่จะช่วยหนุนอินโดนีเซียให้กลายเป็น "ดาวรุ่ง" ทางเศรษฐกิจในเอเชีย
"ชัยชนะของยุดโยโน่จะช่วยให้อินโดนีเซียไปถึงเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งอาจทาบรัศมีประเทศตลาดเกิดใหม่อย่างจีนและอินเดียได้ โดยยุดโยโน่เร่งกระจายการสร้างงานผ่านโครงการฟื้นฟูสาธารณูปโภคพื้นฐาน รวมถึงการสร้างถนน ท่าเรือ โรงงานไฟฟ้า และกระตุ้นการลงทุนจากต่างชาติ การทำเช่นนี้จะช่วยให้อินโดนีเซียมีสิทธิผงาดขึ้นเป็นดาวรุ่งทางเศรษฐกิจในเอเชียได้ไม่ยาก" มิลาน ซาวาดิจิล นักวิเคราะห์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าว
ยุดโยโน่ หรือที่สื่อต่างชาติเรียกขานว่า "ประธานาธิบดี SBY" ให้คำมั่นว่า จะเพิ่มงบประมาณการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคสูงถึง 1.40 แสนล้านดอลลาร์เมื่อขึ้นนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีสมัยที่ 2 และจะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัว 7% ต่อปี นอกจากนี้ ยุดโยโน่มีเป้าหมายสกัดกั้นการแข็งค่าของสกุลเงินรูเปียห์เพื่อกระตุ้นภาคส่งออก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ที่ประชุม World Economic Forum’s 2008 ให้อันดับอินโดนีเซียไว้ที่ 86 ในฐานะประเทศที่มีคุณภาพในด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน ซึ่งเป็นอันดับที่ดีกว่าปากีสถานและศรีลังกาที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของผู้ก่อการร้าย