เกาหลีใต้ได้ยกระดับการเฝ้าระวังสื่ออินเทอร์เน็ต เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการโจมตีเว็บไซต์ของรัฐบาลอีก หลังจากที่เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ทำเนียบประธานาธิบดีและหอประชุมสมัชชาแห่งชาติเกาหลีใต้ ถูกโจมตีจากกลุ่มแฮคเกอร์ โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่าแฮคเกอร์พุ่งเป้าสืบค้นข้อมูลของคณะรัฐมนตรี สำนักงานของรัฐ และเว็บไซต์ที่สำคัญๆของรัฐบาล ซึ่งส่งผลให้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่สถานที่ดังกล่าวไม่สามารถใช้งานได้ในช่วงเช้าวานนี้
บลูมเบิร์กรายงานว่า หน่วยสืบสวนสอบสวนแห่งชาติของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า อาจจะมีการโจมตีเกิดขึ้น โดยผู้โจมตีได้มีการเตรียมการมาเป็นอย่างดี ซึ่งเกาหลีเหนืออาจจะอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้
หวาง มี ยุง โฆษกของบริษัท อันแล็บ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจดูแลความปลอดภัยบนระบบคอมพิวเตอร์ กล่าวว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นกรณีที่รุนแรงมากที่สุดในเกาหลีใต้เลยทีเดียว หลังจากที่เคยเกิดเหตุไวรัส Slammer โจมตีเครื่องและบริการจนเป็นอัมพาตเมื่อเดือนม.ค. 2547 ทั้งนี้ รหัสที่ได้มีการนำมาใช้ในการโจมตีถูกตั้งโปรแกรมไว้ให้เริ่มปฏิบัติการอย่างเร็วสุด 6 โมงเย็นวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นในเกาหลีใต้
ทั้งนี้ รหัสในการโจมตีถูกสั่งการมาจากคอมพิวเตอร์ปลายทางเพื่อพุ่งเป้าไปยังเว็บไซต์เป้าหมายที่มีข้อมูลจำนวนมาก ซึ่งอาจจะทำให้เว็บนั้นๆเป็นอัมพาต โดยการโจมตีวันนี้พุ่งเป้าไปที่องค์กรต่างๆ 7 องค์กร อาทิ กระทรวงกิจการและความมั่นคงสาธารณะของเกาหลีใต้
บรูซ คลิงเกอร์ นักวิเคราะห์เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือของมูลนิเฮอริเทจ กล่าวว่า หากเกาหลีเหนืออยู่เบื้องหลังการโจมตี การกระทำดังกล่าวนับเป็นการกระทำที่ยั่วยุสหรัฐและเกาหลีใต้อย่างยิ่ง แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าเกาหลีเหนือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีที่เกิดขึ้น
เมื่อเร็วๆนี้ ทางการสหรัฐเปิดเผยว่า เว็บไซต์ของกระทรวงต่างประเทศ กระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคม ถูกแฮคเกอร์ที่ยังไม่สามารถระบุตัวได้โจมตีในช่วงวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งบางเว็บยังถูกโจมตีมาจนกระทั่งถึงบัดนี้
นอกจากนั้น เว็บไซต์ของ NYSE Euronext เจ้าของตลาดหลักทรัพย์รายใหญ่สุดของโลก ยังได้รับแจ้งจากทางการว่าตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของพวกแฮคเกอร์เช่นกัน