นายสุวัตร์ อภัยภักดิ์ ทนายความกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เผยวันที่ 16 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น.แนวร่วมกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้ง 35 คน ยกเว้นนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ จะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวนที่ตั้งข้อหาร่วมกันกระทำความผิดฐานก่อการร้าย กรณีบุกยึดสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อช่วงปลายปี 51 ที่สโมสรตำรวจ
ทนายความฯ กล่าวว่า การเดินทางไปครั้งนี้ไม่ใช่การไปมอบตัว แต่จะใช้สิทธิโต้แย้งตามกฎหมาย เนื่องจากเห็นว่าพนักงานสอบสวนตั้งข้อหาเท็จ โดยแกนนำพันธมิตรฯ มีมติร่วมกันที่จะยื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ร่วมกับผู้เกี่ยวข้องคนอื่นๆกรณีทีตั้งข้อหาเกินกว่าเหตุ
"จะฟ้องกลับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเป็นจำเลยที่ 1 เนื่องจากเป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยจะฟ้องกลับในฐานความผิด มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และมาตรา 200 กลั่นแกล้งบุคคลให้รับโทษโดยที่ไม่ได้กระทำความผิด" นายสุวัตร กล่าวภายหลังหารือร่วมกับแนวร่วมกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้ง 35 คน
ทนายความกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนตั้งข้อกล่าวหาเท็จ เนื่องจากการชุมนุมไม่ได้ทำความเสียหายให้เกิดขึ้นแก่สนามบินทั้ง 2 แห่ง ซึ่งขอตั้งข้อสังเกตว่าการตั้งข้อกล่าวหานายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ เป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ เพราะนายกษิตขึ้นเวทีเพียงครั้งเดียว และมาในฐานะนักวิชาการที่รับเชิญมา แต่คนอื่น เช่น นายพิเชษฐ์ พัฒนโชติ อดีต ส.ว.นครราชสีมา ขึ้นเวทีหลายครั้งแต่กลับไม่ถูกตั้งข้อกล่าวหา
"บางคนเป็นแค่คนส่งข้าวก็ถูกตั้งข้อกล่าวหา การต่อสู้ของพันธมิตรฯ ครั้งนี้จะเป็นบรรทัดฐานให้กับสังคมต่อไป" นายสุวัตร กล่าว