นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี มั่นใจว่า ตำรวจจะสามารถจับกุมทีมสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ จากความคืบหน้าในการออกหมายจับผู้ต้องหา 2 รายแรก แต่ไม่กล้ารับประกันว่าตำรวจจะสามารถสาวไปถึงตัวผู้บงการได้หรือไม่
"คงตอบไม่ได้ อยู่ที่พนักงานสอบสวนคนทำคดี เขาก็ติดตามเรื่องนี้มาก็มีความมั่นใจมากขึ้นจนถึงขั้นออกหมายจับได้ ต้องเชื่อเขา เขาเป็นมืออาชีพ มั่นใจว่าตำรวจจะทำหน้าที่ได้สมบูรณ์ แต่จับเมื่อไหร่ให้รอดูแล้วกัน"นายสุเทพ กล่าว
วานนี้ ศาลอนุมัติออกหมายจับทีมสังหาร 2 ราย เป็นทหารสังกัดหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จ.ลพบุรี และตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หลังเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มใส่รถยนต์ของนายสนธิเกือบ 100 นัด เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 17 เม.ย.52 บริเวณใกล้สี่แยกบางขุนพรหม ทำให้นายสนธิ ผู้ติดตาม และคนขับรถได้รับบาดเจ็บ
และล่าสุดมีรายงานข่าวเตรียมขออนุมัติออกหมายจับทีมสังหารเพิ่มอีก 12 ราย
นายสุเทพ กล่าวแสดงความชื่นชมตำรวจที่ทำงานด้วยความมานะพยายาม เพราะเป็นคดีที่ทำด้วยความยากลำบากกว่าจะเจอหลักฐาน แต่ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งส่วนตัวไม่รู้สึกหนักใจอะไร และเห็นว่าไม่ควรนำผู้ต้องหาไปเชื่อมโยงถึงสถาบันตำรวจและทหารว่าต้องร่วมรับผิดชอบ และไม่สามารถตอบได้ว่าจะสาวไปถึงตัวผู้บงการในคดีนี้ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน ต้องเคารพในความเป็นมืออาชีพของตำรวจ ฝ่ายการเมืองจะไม่เข้าไปแทรกแซง
ส่วนกรณีที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ให้ทนายความยื่นฟ้อง ผบ.ตร.กรณีถูกออกหมายเรียกข้อหาร่วมกันก่อการร้ายจากการบุกยึดสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากเห็นว่าเป็นการตั้งข้อหาเป็นเท็จนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องปกติที่จะใช้สิทธิต่อสู้คดีได้ ซึ่งฝ่ายบริหารไม่ได้เข้าไปก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรม
"การที่ศาลไม่รับฟ้องก็เห็นชัดเจนขึ้น หากพนักงานสอบสวนทำตามหน้าที่ก็ไม่ต้องกลัว แต่ถ้าผู้ถูกกล่าวหาเห็นว่าพนักงานสอบสวนทำผิดก็มีสิทธิดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน ไม่มีอะไรต้องกังวลใจ... (กรณีของนายกษิต) คงไม่ใช่การกดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นสิทธิที่ทำได้ อย่าไปตื่นเต้นมาก ใครผิดใครถูกกระบวนการกฎหมายจะให้คำตอบเอง คิดว่าเจ้าหน้าที่คงไม่เสียกำลังใจ" นายสุเทพ กล่าว
สำหรับการเตรียมความพร้อมเพื่อรักษาความปลอดภัยการประชุมอาเซียนที่ จ.ภูเก็ต ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ นายสุเทพ กล่าวว่า มีความมั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาความรุนแรงเหมือนที่เคยเกิดพัทยาเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา โดยสั่งการให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่ และไม่เชื่อคำพูดของแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ที่ประกาศจะไม่นำกลุ่มผู้ชุมนุมไปกดดัน