แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจำนวนหนึ่ง พร้อมด้วยทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสืบสวนในวันนี้ที่สโมสรตำรวจ หลังจากถูกออกหมายเรียก 36 แกนนำฯ ตามข้อหาร่วมกันก่อการร้ายกรณีบุกยึดสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อปลายปี 51 โดยแกนนำพันธมิตรฯ ได้ยื่นคำร้องโต้แย้งสิทธิเนื่องจากเห็นว่าตำรวจตั้งข้อหารุนแรงเกินไป
นายสุวัตร อภัยภักดิ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความแนวร่วมกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ยื่นคำร้องคัดค้านการตั้งข้อหาของพนักงานสอบสวน เนื่องจากเห็นว่าข้อหาดังกล่าวเป็นข้อหาหนักที่สุดของกระบวนกฎหมายอาญา มาตรา 6 ทวิ ว่าด้วยการก่อการร้าย ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต ทั้งที่การชุมนุมเป็นไปด้วยความสงบและปราศจากอาวุธ
ขณะที่ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดไม่ได้เดินทางมาเพื่อรับหมายเรียก หรือมอบตัว แต่เดินทางมาเพื่อใช้สิทธิโต้แย้งการออกหมายเรียกที่ไม่ชอบธรรมของพนักงานสอบสวน แตกต่างจากการเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา เพราะการเดินทางมาตามหมายเรียกเท่ากับยอมรับข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวน ซึ่งจะทำให้กระบวนการเดินไปสู่อัยการและศาลต่อไป
การเดินทางมาเพื่อโต้แย้งการออกหมายเรียก ตำรวจต้องรับคำโต้แย้งไว้พิจารณา อาจมีการออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหาอีกครั้ง หากครั้งที่ 2 ไม่มา ก็สามารถออกหมายจับได้ทันที เรื่องจึงเข้าสู่กระบวนการศาล ถือเป็นการยื้อเวลาเพื่อให้เรื่องไปสู่ชั้นศาลให้นานที่สุด และสำนวนโต้แย้งครั้งนี้จะเป็นหลักฐานสำคัญสำหรับใช้ต่อสู้กันในศาลขอให้มีการไต่สวนฉุกเฉินในชั้นศาลได้
ทั้งนี้ ที่บริเวณหน้าสโมรสรตำรวจ ผู้สนับสนุนกลุ่มพันธมิตรฯ หลายจังหวัดได้เดินทางมาให้กำลังใจ พร้อมนำรถขยายเสียงตั้งเวทีปราศรัยชั่วคราว