นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงเผยเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นที่โรงแรมริทซ์ คาร์ลตัน และเจดับบลิว แมริออท ในกรุงจาการ์ต้า เมืองหลวงของอินโดนีเซียเมื่อวานนี้เป็นสัญญาณบ่งชี้กลุ่มลัทธิสงครามศักดิ์สิทธิ์ในอินโดนีเซียได้ฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว หลังจากที่เงียบไปนานถึงเกือบ 4 ปี
เหตุระเบิดที่โรงแรม 2 แห่งเมื่อวานนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย และบาดเจ็บอย่างน้อย 53 ราย โดยหนึ่งในจุดที่เกิดเหตุระเบิดเป็นการประชุมของผู้บริหารที่โรงแรมแมริออท ส่งผลให้ประธานบริษัทปูนซีเมนต์ พีที โฮลซิม ชาวนิวซีแลนด์เสียชีวิต
บลูมเบิร์กรายงานว่า ซี ฮอลแลนด์ เทย์เลอร์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิลิบฟอร์ออล ซึ่งเป็นองค์กรที่มีเป้าหมายในการลดความรุนแรงทางศาสนาและไม่เห็นด้วยกับการก่อการร้าย กล่าวว่า เหตุวางระเบิดฆ่าตัวตายบงชี้ว่า กลุ่มจิฮัดได้กลับมาแล้ว พวกเขาต้องการสร้างสถานการณ์ให้นักธุรกิจต่างชาติรู้สึกไม่สบายใจที่จะมาทำงานที่จาการ์ต้า
ซิดนีย์ โจนส์ ที่ปรึกษาอาวุโสของอินเตอร์เนชั่นแนล ไครสิส กรุ๊ป ในจาการ์ต้า กล่าวว่า เหตุการณ์โจมตีที่เกิดขึ้นทำลายความสงบสุขต่อเนื่องนานถึง 4 ปีของอินโดนีเซีย เหตุระเบิดอาจจะเกิดขึ้นจากฝีมือของกลุ่มเจมาห์ อิสลามิยาห์ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวพันกับกลุ่มอัล-กออิดะห์
ทางด้านตำรวจอินโดนีเซียก็อยู่ในรหว่างการสืบสวนสอบสวนว่ากลุ่มใดที่ลงมือก่อเหตุระเบิดโรงแรมทั้ง 2 แห่ง