นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐซึ่งอยู่ในระหว่างการเดินทางเยือนอินเดีย และได้กระชับความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างสหรัฐและอินเดียแล้ว ยังได้มีส่วนช่วยผลักดันให้สหรัฐและอินเดียเดินหน้าไปสู่การทำข้อตกลงมูลค่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ในการขายเชื้อเพลิงนิวเคลียร์และกลาโหม แม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จนักในการผลักดันให้อินเดียประกาศใช้กฎหมายในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์และการควบคุมอาวุธ
การเดินทางเยือนอินเดียเป็นเวลา 3 วัน ซึ่งถือเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศที่นานที่สุดนับตั้งแต่ที่คลินตันขึ้นทำหน้าที่รมว.ต่างประเทศ ถือเป็นโอกาสในการยกระดับความร่วมมือกับอินเดียซึ่งมีประชากรจำนวนมากและยังเป็นหนึ่งในประเทศที่เศรษฐกิจมีอัตราการขยายตัวรวดเร็วที่สุด หลังจากที่ตัวแทนรัฐบาล 2 ประเทศได้เจรจาในเรื่องเกษตรกรรม การค้า พลังงาน การศึกษา และความมั่นคงในประเทศ
บลูมเบิร์กรายงานว่า ข้อตกลงที่สำคัญที่สุดในบรรดาข้อตกลงต่างๆที่ได้มีการตกลงกันเมื่อวานนี้ได้แก่ข้อตกลงในการติดตามการใช้งานหรือขายเทคโนโลยีกลาโหมและอุปกรณ์ของสหรัฐ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่อยู่ภายใต้กฎหมายควบคุมการส่งออกอาวุธสหรัฐ โดยอินเดียได้อนุมัติให้มีการยกเลิกข้อจำกัดในการส่งออกอาวุธของสหรัฐ
ล็อคฮีด มาร์ติน และโบอิ้ง เป็นหนึ่งในบริษัทที่ร่วมวงเสนอราคาประมูลโครงการสั่งซื้อเครื่องบินเจ็ตมูลค่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์จากอินเดีย ซึ่งถือเป็นสัญญาด้านกลาโหมที่มีมูลค่าสูงสุดครั้งหนึ่งของโลก ขณะที่อินเดียก็ได้แจ้งกับสหรัฐถึงสถานที่ที่จะมีการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่สหรัฐให้การสนับสนุน 2 แห่งคือ ที่รัฐอันตระประเทศและกุจจาราช ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงที่ได้มีการเจรจาต่อรองกันในสมัยอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช
สำหรับการเจรจาระหว่างนางคลินตันกับนายกฯอินเดีย และรมว.ต่างประเทศอินเดียนั้น ได้มีการเน้นย้ำความร่วมมือในการต่อต้านการก่อการร้าย และการใช้ความพยายามเพื่อสนับสนุนให้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างปากีสถานใช้ความเฉียบขาดในการจัดการกับกลุ่มหัวรุนแรง