นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกมาแฉรู้ตัวทีมลอบสังหารเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งทหารและตำรวจที่ร่วมกันทำเป็นขบวนการ โดยผู้ว่าจ้างให้สังหารตนเองนั้นอยู่เมืองนอก และในวันที่ 31 ก.ค.นี้จะเดินทางไปฟังคำชี้แจงเรื่องนี้จากปากของนายกรัฐมนตรีด้วยตัวเองในฐานะสื่อมวลชน
"การลอบสังหารผมน่าจะเป็นการดำเนินการของคนในกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กับทหาร เป็นกฐินสามัคคี มีคนจ่ายเงินอยู่เมืองนอก เพราะผมเป็นอันตรายกับพวกเขา เนื่องจากไม่ยอมเรื่องการขายแผ่นดิน เช่น กรณีปราสาทพระวิหาร" นายสนธิ กล่าว
นายสนธิ ระบุด้วยว่า นอกจากจะรู้ตัวผู้ร่วมขบวนการลอบสังหารตนเองแล้ว ยังรู้อีกว่ามีตำรวจดักฟังที่บ้านตนเอง โดยตำรวจที่ชำนาญเรื่องนี้ คือ ตำรวจกองบัญชาการปราบยาเสพติด, ตำรวจสันติบาล และเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ
"ทีมที่มาลอบฆ่าผมนั้น มีทั้งหมด 14 คน เป็นทหาร 13 คน กับตำรวจอีก 1 คน โดยนายพลท่านหนึ่งได้เป็นคนสั่งให้ดีเอสไอกับทหารมาเก็บผม โดยเป็นทหารป่าหวายร่วมกับตำรวจในดีเอสไอ ผมรู้ว่าใครเป็นคนสั่งฆ่าผม แต่ก็ไม่ได้ติดใจในเรื่องนี้แล้ว โดยทหารเป็นทหารหน่วยเฉพาะกิจ ฉก.90 ซึ่งสื่อมวลชนไปค้นได้ว่าใครเป็นคนมีอำนาจสามารถสั่งการและใครบ้างขึ้นตรงต่อหน่วย ฉก.90 ซึ่งคนที่สั่งฆ่าผมนั้น เป็นทั้งคนกลุ่มอำนาจเก่าและกลุ่มอำนาจใหม่ผสมกัน ซึ่งผมก็รู้ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นญาติของคนที่อยู่เมืองนอกยังมีความสนิทชิดเชื้อกับคนในกรมสอบสวนคดีพิเศษอีกด้วย" นายสนธิ กล่าว
นายสนธิ กล่าวว่า ขณะนี้บ้านเมืองต้องการเห็นความยุติธรรม ไม่ว่าใครหน้าไหนที่มายิงตนเอง ผู้ที่รับผิดชอบต้องจับตัวมาดำเนินการตามกฎหมาย และวันที่ 31 ก.ค.นี้ หากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงคดีนี้ด้วยตนเอง จะขอไปฟังเรื่องนี้ด้วยตัวเองในฐานะสื่อมวลชน เพราะมีคำถามที่ต้องต้องการถามเป็นจำนวนมาก และขอให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาร่วมชี้แจงด้วย
"ผมคงไม่ขอเข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อคุยเรื่องคดีเป็นการส่วนตัว เพราะทุกอย่างต้องโปร่งใสให้ทุกคนได้รับรู้ ถ้าพบส่วนตัวแล้วรับแค่ความเห็นใจแล้วไม่ทำอะไรสักอย่างก็ไม่รู้ว่าจะไปพบทำไมให้เสียเวลา" นายสนธิ กล่าว
นายสนธิ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการส่งเจ้าหน้าที่ระดับนายพัน นายพล มาพูดคุยกับคนของตนเองหลายคน เพื่อพยายามชี้ให้เห็นว่า การดำเนินการผิดเป้าหรือไม่ แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ เพราะที่ผ่านมาเคยอโหสิกรรมให้กับทุกคนแล้ว