ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีมติให้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงตามคำร้องของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย และ ส.ส.รวม 158 ที่ให้พิจารณาถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 271 ประกอบมาตรา 270
"พิจารณาแล้วมีมติให้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงตามคำร้อง...โดยกำหนดให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งคณะเป็นองค์คณะดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง และมอบหมายให้นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช.เป็นผู้รับผิดชอบสำนวน" เอกสารเผยแพร่ของสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช.ระบุในเว็บไซต์
ตามคำร้องได้กล่าวหาว่า นายกรัฐมนตรีมีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ ส่อว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญยัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงกรณีประกาศคัดค้านการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย.49, ดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลทั้งๆ ที่รู้ว่าเสียงสนับสนุนในการจัดตั้งรัฐบาลไม่เพียงพอจนได้เป็นนายกรัฐมนตรี,
เป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนในการทำให้การบริการของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิหยุดชะงัก, รู้เห็นเป็นใจกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในการส่ง ส.ส.ไปช่วยปฏิบัติราชการในกระทรวงต่างๆ, ปกปิดซ่อนเร้นไม่เปิดเผยการรับเงินสนับสนุนพรรคการเมือง, ไม่กำกับดูแลเพื่อรักษาไว้ซึ่งดินแดนของประเทศ ปล่อยให้ประเทศเพื่อนบ้านทำถนนบุกรุกยึดครองพื้นที่ทางขึ้นเขาพระวิหาร, ออกหนังสือรับรองความเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอันเป็นเท็จให้กับนายธานินทร์ ใจสมุทร และกรณีขอให้บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 รายส่ง SMS ให้ประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น