(เพิ่มเติม) นายกฯชี้เสื้อแดงถวายฎีกาเป็นความขัดแย้งทางการเมืองไม่ควรกระทบเบื้องสูง

ข่าวการเมือง Sunday August 2, 2009 11:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ ถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงเตรียมยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่ควรนำเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองไปกระทบสถาบันเบื้องสูง โดยเฉพาะเรื่องการถวายฎีกา ซึ่งหลักกฎหมายคนที่ทำความผิดจะต้องถูกลงโทษและคนขอพระราชทานอภัยโทษจะต้องเป็นเจ้าตัวหรือครอบครัว แต่ในกรณีนี้ถือว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ พราะไม่ใช่การขอพระราชทานอภัยโทษ แต่เหมือนเป็นการโต้แย้งศาล ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องของการเมือง

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลก็เดินหน้าชี้แจงความจริงกับประชาชนไม่ให้ไขว้เขว เพราะการกระทำดังกล่าวถือเป็นการก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ส่วนกระทรวงมหาดไทยตั้งโต๊ะถอนรายชื่อนั้น เพราะมีความเป็นห่วงเกรงว่าการล่ารายชื่อจะมีเจตนาไม่เหมาะสม

"โดยปกติเรื่องของการถวายฎีกาจะมีขั้นตอน เรื่องล่าชื่อถวายฎีกาก็ไปทำความเข้าใจกัน ผมว่ามันคลาดเคลื่อนมาก สิ่งที่รัฐบาลทำคือต้องบอกความจริงกับประชาชน และผมก็ให้สัมภาษณ์ ทางกระทรวงยุติธรรมก็แถลงข่าว เราก็ออกรายการโทรทัศน์ไป ว่าพี่น้องประชาชนอย่าได้ไปไขว้เขว ถูกชักจูงไปว่าต่อไปนี้ถ้าใครลงชื่อกันมาก ๆ และแปลว่าจะทำสิ่งนั้น จะทำสิ่งนี้ และที่สำคัญคือว่าอันนี้จะก้าวล่วงไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะฉะนั้น เราก็บอกตรง ๆ ว่าอยากให้ทราบข้อมูลที่แท้จริง ส่วนการไปดำเนินการถ้าไม่ผิดกฎหมายเขาก็ย่อมทำได้ เพียงแต่ว่าสุดท้ายปลายทางอย่างที่อาจารย์พูดว่าถ้าเรื่องเข้ามา ผู้รู้เขาก็เห็นชัดเจนอยู่แล้วว่าไปต่อไม่ได้ มันก็จบกัน ประชาชนก็ต้องเข้าใจตามนี้ แต่ผมเองผมไม่ทราบว่าตกลงจะยื่นหรือไม่ยื่น ยื่นเมื่อไหร่ ยื่นอย่างไร แต่สมมติว่าถ้ายื่นมา แล้วบอกว่ามีคนมาลง ทางสำนักราชเลขาธิการก็ต้องใช้ดุลพินิจของท่านก่อน

ส่วนที่กระทรวงมหาดไทยตั้งโต๊ะให้มีคนมาถอนชื่อ เพราะอาจจะมีความวิตกกังวลว่าประชาชนอาจจะมีการถูกชักจูงไป ไม่เข้าใจอะไร ก็เปิดช่องทางไว้ช่องทางหนึ่ง แต่จริง ๆ แล้วเมื่อยื่นมารัฐบาลก็คงต้องตรวจสอบว่าเป็นใครอยู่ที่ไหน แสดงเจตนาอย่างนั้นจริงหรือไม่ และคนที่มายื่นต้องรับผิดชอบว่าที่บอกว่ามีบุคคลจำนวนมากมายทั้งหลายอย่างที่อ้างกัน ได้แสดงเจตนาตามนี้จริง ๆ เข้าใจเนื้อหาก่อนลงนามจริง ๆ เพราะฉะนั้น ก็เท่ากับว่าถือว่าเป็นการไปหลอกลวงเขามา หรือเป็นการมาแจ้งเท็จ ก็ต้องมีการตรวจสอบ ถ้ามีอะไรที่ผิดกฎหมายต้องดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา"นายกรัฐมนตรีกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ