ที่ปรึกษากฎหมายฯ เปิดเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เซ็นสัญญาลงทุนทำเหมืองเพชรร่วมกับ 3 ประเทศในทวีปแอฟริกา และกำลังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะดึงแรงงานไทยไปร่วมทำงานด้วย
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายฯ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังพำนักอยู่ที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และทำธุรกิจไปด้วย โดยล่าสุดได้เซ็นสัญญาร่วมลงทุนทำเหมืองเพชรกับ 3 ประเทศในทวีปแอฟริกา หลังจากก่อนหน้านี้ได้เซ็นสัญญาทำเหมืองแร่ทองไปแล้ว เบื้องต้นพบว่ามีปริมาณเพชรอยู่พอสมควร
"อีกประมาณ 2 สัปดาห์ พ.ต.ท.ทักษิณ จะนำภาพถ่ายเพชรมาเผยแพร่ และกำลังศึกษาถึงความเป็นไปได้ที่จะนำแรงงานไทยมาร่วมงานด้วย เช่น ตำแหน่งวิศวกรเหมืองแร่ ช่างเจียระไนเพชร เนื่องจากแรงงานไทยมีฝีมือดี ซึ่งเป็นการสร้างประโยชน์ช่วยให้คนไทยมีงานทำ และมีรายได้เข้าประเทศ" นายนพดล กล่าว
ที่ปรึกษากฎหมายฯ กล่าวว่า กรณีที่มีการรวบรวมรายชื่อประชาชนเพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นมีกระบวนการสกัดกั้นจากรัฐบาลและพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากเกิดความหวั่นไหว ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีประชาชนเป็นผู้ดำเนินการ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ยุ่งเกี่ยว
"หากท่านหรือครอบครัวเข้าไปมีส่วนร่วมก็จะถูกมองว่าทำเพื่อตัวเอง" นายนพดล กล่าว
ที่ปรึกษากฎหมายฯ กล่าวว่า การที่รัฐบาลออกมาใช้แง่มุมข้อกฎหมายสกัดกั้นการถวายฎีกานั้น รัฐบาลที่นำโดยพรรคประชาธิปัตย์เต็มไปด้วยนักกฎหมาย บริหารประเทศด้วยกฎหมาย แต่บางครั้งความเห็นทางกฎหมายก็ผิด เช่น กรณีปราสาทพระวิหาร ก็นำข้อกฎหมายผิดๆ มาสร้างความสับสนให้ประชาชน
"ข้าราชการที่พยายามสกัดกั้นการถวายฎีกานั้นเท่ากับยอมตกเป็นเครื่องมือของนักการเมือง ทำงานโดยไม่ยึดโยงกับประชาชน อย่าลืมว่านักการเมืองมาแล้วก็ไปแต่ประชาชนจะอยู่กับข้าราชการตลอด" นายนพดล กล่าว